top
แนะนำโรงพยาบาล ▼
ศัลยกรรมขากรรไกร ▼
ศัลยกรรมโครงหน้า ▼
ศัลยกรรมแก้ไข ▼
รีวิวศัลยกรรม / Before-After ▼
ข่าวสารอียู ▼

리얼모델신청하기 리얼모델신청하기 닫기

รีวิวศัลยกรรม / Before-After > Real Selfie Before/After
+
  • กลับมาใช้ชีวิตประจำวันได้ปกติแล้วค่ะ
  • 2021-03-24 hit.895
  • 작성자 : 김**



เมื่อตอนฉันอายุ 19 ปี ตอนที่อ้าปาก, เคี้ยวอาหาร หรือพูดคุย ฉันรู้สึกปวดคาง และมีเสียงที่คาง "กึกๆ " ฉันจึงไปที่คลินิกทันตกรรม ในโรงพยาบาลของมหาวิทยาลัย และได้ยินเรื่องราวที่น่าตกใจ ปกติคนทั่วไปเวลาเติบโต ขากรรไกรบน และขากรรไกรล่างมักจะ โตขึ้นพร้อมกัน และฟันจะสบกันปกติ ส่วนเคสของฉันขากรรไกรบนโตขึ้นปกติ แต่ขากรรไกรล่าง เล็กมากผิดปกติ ทำให้ฟันไม่สบกัน ทำให้มีเสียงและมีอาการปวดได้ค่ะ และคุณหมอได้กล่าวว่าถ้าหากไม่ได้รับการผ่าตัดขากรรไกร อาจทำให้เป็นโรคกระดูกพรุน อายุของกระดูกจะเท่าคุณยาย ดังนั้นจะมีปัญหาในการเคี้ยวมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ตอนนั้นคุณพ่อคุณแม่ไม่สนับสนุนให้ผ่าตัดขากรรไกร และมีปัญหาของการเข้ามหาลัยด้วย เลยทำให้ไม่พร้อมสำหรับการผ่าตัดขากรรไกร

 

เวลาผ่านไปเกือบ 10 ปี ฉันได้ใช้ความกล้าอย่างมากในการเตรียมตัวสำหรับการผ่าตัด ตอนนี้ฉันกำลังมองหาโรงพยาบาล เพื่อดูว่าโรงพยาบาลบางแห่งสามารถลดความเสี่ยงของผลข้างเคียงได้หรือไม่ และฉันมาที่โรงพยาบาลอียู เพื่อที่จะลองมากปรึกษากับพวกเขา ฉันมีความรู้สึกว่าฉันควรจะเชื่อใจโรงพยาบาลนี้ อันดับแรกฉันเชื่อใจพวกเขามากขึ้นเล็กน้อย เพราะไม่ใช่ศัลยแพทย์ทั่วไป แต่เป็นศัลยแพทย์เฉพาะทางช่องปากและโครงหน้าขากรรไกร ที่จบจากมหาวิทยาลัยทันตกรรม เมื่อฉันไปโรงพยาบาลเป็นครั้งสุดท้าย ฉันชอบที่มีวิสัญญีแพทย์อยู่ประจำ และคนไข้ไม่แออัดเกินไป และเงียบพอสมควร และพนักงานก็เป็นมิตรกับฉัน ฉันกำลังจะผ่าตัดเร็วๆ นี้! ฉันหวังว่าจะสวยขึ้น และสุขภาพดีขึ้นเมื่อผ่าตัดขากรรไกร!

 





[วันผ่าตัด]

พี่สาวของฉันมาเยี่ยมฉันทันทีหลังการผ่าตัด เธอได้ดูแลฉันจนถึง 21.00 น. ฉันนึกไม่ถึงว่าฉันจะผ่านความทุกข์ทรมานมาได้โดยไม่มีพี่สาว หลังจากการผ่าตัดพยาบาลบอกฉันว่าฉันไม่ควรหลับ... เนื่องจากการดมยาสลบ ทำให้มีแก๊สอยู่ภายในร่างกายของฉัน ฉันควรตื่นและนั่งหายใจเข้าลึกๆ เพื่อขับแก๊สในร่างกายออกค่ะ แต่ฉันรู้สึกง่วงมากๆ แต่พยายามที่จะไม่หลับ แม้ว่าฉันจะมียาแก้ปวด แต่ก็รู้สึกปวดๆ และอึดอัดตลอดเวลา และขณะที่ยาเข้ามาในร่างกาย ทำให้คลื่นไส้อยากอาเจียนมากๆ เลยค่ะ แต่ฉันก็ยังรู้สึกไม่สบายใจ บางครั้งเวลาไอแรงๆ ทำให้เลือดเป็นก้อนๆ ออกมาจากคอ และเลือดกำเดาไหลตลอดทั้งวันเลยค่ะ หลังจากการผ่าตัดประมาณหกชั่วโมงอาการของฉันดูเหมือนจะพอทนได้ ฉันรู้สึกเหงาน้อยลง เพราะมีพยาบาลใจดีมาเยี่ยมฉัน และตรวจความดัน และเข้าดูอาการ ฉีดยาแก้อักเสบ ทุกๆ หนึ่งถึงสองชั่วโมงตลอดทั้งคืน ฉันอาเจียนออกมาพยาบาลก็เปลี่ยนเสื้อผ้าและผ้าห่มให้ พยาบาลต้องเป็นนางฟ้าจริงๆ แน่ๆ เลยค่ะ

 

[ผ่าตัด D+1]

ตอนเช้าประมาณ 7โมง ฉันได้ทำเลเซอร์ และพยาบาลบอกว่าตั้งแต่วันนี้ต้องเริ่มกินอาหาร เลยได้ให้อาหารเสริม นิวแคร์ 1กล่อง และสายฉีดยา 1อัน ฉันใช้สายฉีดยา กินน้ำ -> กินอาหารเสริม นิวแคร์ -> และกินน้ำอีกรอบ ดีใจที่กลืนเครื่องดื่มได้อย่างสบายๆ โดยไม่มีอาการปวด หลังจากนั้นฉันก็เดินไปรอบๆ โรงพยาบาล ฉันรู้สึกว่าฉันเป็นคนที่มีสุขภาพดีที่สุดในโรงพยาบาลนี้! หมอมาเยี่ยมฉันประมาณ 10.00 น. และได้เช็ดแผลฆ่าเชื้อให้ฉัน และสอนวิธีใส่เวเฟอร์ และรัดยางรอบฟันของฉัน หลังจากนั้นฉันรู้สึกหายใจลำบากมาก ฉันเลยได้กดออดเรียกพยาบาลเพื่อฉีดยาจมูก นอกจากนี้ผ้ารัดหน้ายังคงเป็นเรื่องที่อึดอัดสำหรับฉันมาก

 





[ผ่าตัด D+2]

ในที่สุดฉันได้ออกจากโรงพยาบาล ฉันได้รับการรักษาด้วยเลเซอร์ที่ตอน 7 โมงเช้า และแพทย์ก็ทำการเช็ดแผลฆ่าเชื้อให้ฉัน! เมื่อฉันสวมผ้ารัดหน้ามันทำให้หายใจไม่ออกจน เดินไม่ได้อีกต่อไป จึงตัดสินใจกลับไปบ้านโดยไม่ต้องใส่ที่รัดหน้าค่ะ รู้สึกกังวลมากเพราะฉันต้องนั่งรถบัสกลับบ้าน โดยใช้เวลา 5ชั่วโมงค่ะ หลังออกจากโรงพยาบาลได้เดินไปที่ทอมินอลรถบัส รู้สึกอึดอัดและเวียนหัวมากๆ เลยค่ะ อยากให้ถึงบ้านไวๆ จังเลยค่ะ ในที่สุดก็ได้ถึงบ้าน ได้กินยา และอาหารเสริมนิวแคร์ที่ซื้อที่ร้านขายยาค่ะ ฉันเหนื่อยมากจนพยายามจะหลับบนโซฟาแต่มันล้มเหลวเพราะฉันไม่ชินกับการนอนหลับสนิทในขณะที่ฉันนั่งลง

 





[D+3]

เมื่อฉันตื่นขึ้นมาในตอนเช้าฉันรู้สึกว่าไม่ช้าก็เร็ว ต้องเป็นโรคหูน้ำหนวกเหมือนในรีวิวของคนอื่นๆ แน่ๆ เลยค่ะ รู้สึกหูอื้อทั้งสองข้าง ตั้งแต่หลังผ่าตัดจนถึงตอนนี้ ฉันรู้สึกเหมือนไม่ได้ยินเสียงเพราะหูอื้อ วันนี้อาการปวดยิ่งหนักขึ้นเรื่อยๆ ในวันนี้ฉันจึงยากที่จะใส่ที่รัดหน้าค่ะ ถึงกระนั้นฉันก็ยังคงฝึกทำอย่างต่อเนื่อง ประมาณ 30 นาที จากหนึ่งชั่วโมง จากนั้นก็ค่อยถอดพัก 30 นาที เพราะต้องใส่ที่รัดหน้าแค่หนึ่งสัปดาห์เท่านั้น ดังนั้นฉันพยายามใส่ที่รัดหน้าให้มากที่สุด! ตั้งแต่วันนี้ก็ฉันสามารถอาบน้ำ ล้างหน้าได้แล้ว ดังนั้นฉันจึงแกะเทปที่ใต้คางออกในตอนเช้าด้วยตัวเอง จากนั้นฉันก็ลุกขึ้นมาสระผมและอาบน้ำ ฉันโชคดีที่ดูเหมือนว่าฉันค่อยๆ กลับมาใช้ชีวิตประจำวันได้ ไม่มีปัญหาอะไรคะ

 





[D+5]

รู้สึกกังวลมากเลยค่ะ เพราะหูข้างซ้ายของฉันรู้สึกปวดหนักขึ้นเรื่อยๆ และสิ่งที่ทรมานมากที่สุดคือ ไม่ใช่ความอึดอัดเวลานอน เพราะหายใจไม่สะดวก แต่เวลานอนรู้สึกเจ็บหูมากเหมือนโดยตัดหู จนนอนไม่หลับเลยค่ะ วันจันทร์จะไปโรงพยาบาลอียู และวันอังคารว่าจะไปโรงพยาบาลหูคอจมูก สภาพแย่ลงเรื่อยๆ แย่ลงเรื่อยๆ หูของฉันเจ็บมากจน แทบจะไม่สามารถนอนหลับได้นานกว่าหนึ่งชั่วโมงเลยค่ะ

 





[D+7]

วันนี้ฉันไปโรงพยาบาลเพื่อเช็ดฆ่าเชื้อ! ที่จริงแล้วใบหน้าของฉันดูอ้วนมากหลังการผ่าตัด ซึ่งทำให้ฉันรู้สึกเหมือนเป็นโรคซึมเศร้า อย่างไรก็ตามทุกครั้งที่ฉันไปอียู พนักงานทุกคนปฏิบัติกับฉันเป็นอย่างดีซึ่งทำให้ฉันรู้สึกดีมาก! วันนั้นฉันพยายามค้นหา youtube มากมายเกี่ยวกับการผ่าตัดขากรรไกร! เมื่อลองค้นดูมีคนบอกว่าหลังผ่าตัดคนไข้ต้องฝึกยิ้มให้ดี ถ้าอยากยิ้มเป็นธรรมชาติหลังทำศัลยกรรม! ฉันจะพยายามฝึกฝนให้ดีที่สุดเพื่อที่ฉันจะได้ยิ้มได้สวยขึ้น

 





[D+8]

รอยช้ำที่ลงมาที่คอค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีเหลือง คุณพ่อคุณแม่ หลังจากนั้นหนึ่งสัปดาห์ฉันก็เริ่มเรียนอีกครั้ง เพราะสภาพและการหายใจของฉันไม่ต่างจากปกติ ฉันไม่มีอาการหายใจไม่ออก หรือเลือดกำเดาไหลขณะที่มองหนังสือโดยก้มหน้าลงบนโต๊ะทำงานแล้วค่ะ แต่ฉันกังวลว่าแก้มจะย้อยเพราะก้มหัวลงมานานเกินไป ฉันไม่ได้พูดถึงเลย เพราะฟันของฉันถูกรัดไว้บนเวเฟอร์และเหล็กดัดฟัน หมอยังบอกฉันว่าอย่าขยับคางให้มากที่สุด จนกว่าฉันจะตัดไหมออก ฉันเลิกพูดไปสักพัก และนั่งสมาธิเงียบ เพราะคนไม่เข้าใจการออกเสียงของฉัน ดูเหมือนว่าจะเหมาะสำหรับการเรียนเพราะฉันไม่สามารถพูดคุยได้

 





[D+9]

อาการบวมของเมื่อวานและวันนี้แตกต่างกัน ฉันยังรู้สึกเหมือนกำลังกัดขนมที่แก้มทั้งสองข้าง และคางของฉันบวม พ่อกับแม่บอกว่าหน้าตาดีขึ้นกว่าตอนก่อนผ่าตัด ฉันเคยมีภาพลักษณ์ที่เย็นชาและคมชัดมาก่อน แต่ตอนนี้ใบหน้ากลมของฉันดูน่ารักและดูดีขึ้นมาก หมอบอกฉันว่าฉันควรใส่ที่รัดหน้าบ่อยๆ จนถึงสัปดาห์ที่สอง ดังนั้นฉันจึงพยายามสวมมันทุกๆ 30 นาทีและใส่มันประมาณสองชั่วโมง กรามของฉันก็เริ่มเจ็บ ฉันเคยมีปัญหาที่ขากรรไกรที่ และมีปัญหาเกี่ยวกับข้อต่ออย่างรุนแรง แต่ทุกอย่างเหมือนดีขึ้นเรื่อยๆ ค่ะ ฉันต้องการตัดไหมเร็วๆ เพื่อที่จะแปรงฟันได้ค่ะ

 





[D+11]

ฉันพยายามอย่างเต็ม ที่จะใส่ที่รัดหน้า อย่างน้อยวันละ 2 ชั่วโมง! ปกติผิวของฉันเองก็ไม่ค่อยเต่งตึงอยู่แล้ว และฉันไม่ต้องการให้ใบหน้าหย่อนคล้อยไปมากกว่านี้ ฉันยังคงมีอาการบวมที่บริเวณแก้ม คนอื่นยังไม่รู้ว่าฉันผ่าตัดขากรรไกร ฉันเลยบอกไปว่าเพิ่งไปถอนฟันคุด โชคดีที่พวกเขาเชื่อคำพูดของฉัน :) หลังผ่าตัดฉันลดน้ำหนักได้ 3 กิโลกรัมและฉันอยากกินเนื้อย่างมากเลยค่ะ

 





[D+12]

ฉันได้แต่งหน้าเป็นครั้งแรกหลังผ่าตัดค่ะ! เนื่องจากวันนี้จะไปดูหนังกับครอบครัวค่ะ! ชอบเห็นหน้าตอนแต่งหน้าหลังผ่าตัดมากเลยค่ะ! ฉันไม่จำเป็นต้องแต่งรูปภาพของฉันอีกต่อไป! ฉันรอคอยที่จะเห็นโครงหน้าที่เรียวชัดขึ้นไม่ไหวแล้วค่ะ

 





[D+13]

เมื่อได้อ่านรีวิวของคนอื่น สามารถแบ่งได้เป็น 2ประเภทค่ะ อย่างแรกคือ หลังผ่าตัดผิวแย่ลง และหลังผ่าตัดผิวดีขึ้นค่ะ แต่ฉันเป็นเคสหลัง ก่อนผ่าตัดถ้าต้องพบคุณหมอหน้าสด กลัวผิวดูแย่มากๆ กลัวว่าคุณหมอตกใจ แต่หลังผ่าตัด 1อาทิตย์ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะยาแก้อักเสบ หรือเพราะกินแต่อาหารเหลวๆ ผิวดีมากที่สุดในชีวิตของฉันเลยค่ะ เมื่อฉันดูรีวิวของคนอื่นหลายคนมีการเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดหลังการผ่าตัดขากรรไกร... อาจจะเป็นเพราะการผ่าตัดสิ้นสุดลงอย่างปลอดภัย ฉันก็อยากจะสวยขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับฉันหลังการผ่าตัดจมูกของฉันดูกว้าง และฉันก็อยากทำจมูกด้วย! ในที่สุดฉันก็ไปโรงพยาบาลเพื่อตัดไหมออกในวันพรุ่งนี้ ฉันหวังว่าฉันจะได้กำจัดเวเฟอร์ได้โดยเร็ว

 





[D+14]

วันนี้ฉันได้ไปโรงพยาบาลเพื่อตัดไหมในปากออกค่ะ ตามที่ฉันอ่านจากรีวิวคนไข้ผ่าตัดขากรรไกร บอกว่าเวลาตัดไหมด้านบนริมฝีปากจะรู้สึกเจ็บนิดหน่อยค่ะ เจ็บแบบพอทนได้ค่ะ เพราะหลังผ่าตัดไม่ได้อ้าปากเลย การอ้าปากยากกว่าเยอะเลยค่ะ ตั้งแต่วันนี้ฉันสามารถแปรงฟัน และออกกำลังกายกล้ามเนื้อปากหลังจากเอาเวเฟอร์ออกได้ หลังเอาเฟอร์ออกรู้สึกสบายปากมากเลยค่ะ ฉันหวังว่าจะได้เอาเวเฟอร์ออกเร็วๆ นี้! ตั้งแต่วันนี้ฉันต้องสวมยางรัดที่บริเวณสกรูด้วยตัวเอง เวลาฉันยิ้มฉันรู้สึกว่าริมฝีปากขวาและซ้ายของฉันดูแตกต่างกัน

 





[D+15]

ฉันไม่เคยเดินเลยหลังผ่าตัด เพราะฉันกลัวว่าจะเป็นลมเพราะไม่ค่อยมีแรง เมื่อวานนี้ฉันรู้สึกดีเมื่อที่ปรึกษาของบอกว่าฉันดูไม่ค่อยบวม เมื่อเทียบกับคนไข้รายอื่น ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปฉันเริ่มกินโสมแดง อาหารเสริม และอาหารเพื่อสุขภาพอื่นๆ ที่ฉันเคยกินก่อนการผ่าตัด ตอนนี้อยากกินปลาไหลย่างมากที่สุด! อยากไปกินให้เร็วที่สุด! นอกจากนี้ฉันต้องการออกกำลังกายปากให้หนักขึ้น .

 





[D+16]

ริมฝีปากของฉันเล็กลงทันทีหลังการผ่าตัด แต่ดูเหมือนจะค่อยๆ กลับมา หลังจากเริ่มออกกำลังกายปาก ริมฝีปากของฉันกว้างขึ้นมาก วันนี้ฉันออกไปเดินเล่นหนึ่งชั่วโมง และกลับมาที่บ้านและฉันคิดว่าฉันบวมน้อยกว่าตอนเช้าอย่างแน่นอน

 





[D+17]

เป็นครั้งแรกที่ได้พบเพื่อนของฉันหลังการผ่าตัด เพื่อนของฉันบอก ว่าฉันดูหน้าเด็กขึ้นหลังการผ่าตัด เพราะอาการบวม ฉันนอนไม่หลับ เพราะต้องนั่งนอนเลยทำให้หลับไม่สนิท หลับๆ ตื่นๆ ตลอดเวลาเลยค่ะ ฉันเหนื่อยมาก เลยลองนอนราบ... วันรุ่งขึ้นใบหน้าของฉันดูบวมมากและฉันไม่สามารถอ้าปากกว้างได้ ฉันมีรอยขีดข่วนมากมายในปากฉันคิดว่าเป็นเพราะเครื่องมือจัดฟันที่คิดค้นขึ้น ฉันแค่หวังว่าจะเอาเวเฟอร์และสกรูที่อยู่ในปากออก นอกจากนี้ฉันยังกินได้แต่อาหารเหลวเท่านั้น

 





[D+20]

สำหรับมื้อกลางวันฉันกินสปาเกตตี 1 ชามกับลูกพีชสับเป็นชิ้นเล็กๆ ฉันยังเคี้ยวไม่ได้ แต่เป็นอาหารนิ่ม จึงกลืนได้ดีไม่มีปัญหา มันเจ็บปวดเกินไปที่ต้องดูครอบครัวของฉันกินซี่โครงหมู ทั้งๆ ที่ฉันยังไม่สามารถกินได้ค่ะ ฉันอยากกินอาหารอร่อยๆ ได้เร็วๆ ค่ะ เมื่อฉันตื่นขึ้นมาในตอนเช้า อาการบวมที่แก้มจมูกและลำคอจะยังคงอยู่ แต่อาการบวมใต้คางลดลงเยอะเลยค่ะ กล่าวกันว่าควรสังเกตอาการบวมบริเวณกรามทั้งสอง ตั้งแต่ 6 เดือน ถึง1ปี แต่หลังจากนั้นแนวกรามจะคมขึ้นจริงๆ การรอคอยเป็นเรื่องสนุกเมื่อเปลี่ยนไปทีละนิด

 





[D+24]

ช่วงนี้สามารถโทรคุยกับเพื่อนๆได้ ใช้ชีวิตได้ปกติแล้วค่ะ ตอนแรกกลัวว่าสำเนียงไม่ชัดกลัวว่า ฉันคุยโทรศัพท์กับคนรู้จักและเข้ากันได้ดี ถามว่าเสียงดูแปลกมั้ย เพื่อนๆ บอกว่าคิดว่ากำลังพูดตอนกินข้าวอยู่...555+ จะสามารถสื่อสารได้อย่างราบรื่นไหมนะ? ยังมีอาการบวมที่ใต้จมูก ฉันพยายามที่จะไม่หมกมุ่นอยู่กับจมูก แต่ฉันเห็นรีวิวและรูปถ่ายของเกือบทุกคน แต่ดูเหมือนว่าจะไม่มีใครมีการเปลี่ยนแปลงรูปร่างจมูกเหมือนฉัน เดิมทีฉันชอบจมูกมากที่สุด แต่ถึงแม้จะไม่ได้ทำศัลยกรรม อยู่ๆ จมูกใหญ่ขึ้นมาก ฉันเสียใจมาก วันนี้ฉันต้องเข้านอนโดยที่จับจมูกของหนึ่งร้อยครั้ง

 





[D+28]

ถ้าครบ 1เดือน นึกว่าจะได้เอาเวเฟอร์ และเอาสกรูออกได้ พอมาโรงพยาบาล คุณหมอจัดฟันบอกว่าการสบฟันยังไม่ปกติดี เลยให้ใส่เวเฟรอ์อีก 2อาทิตย์ค่ะ และได้บอกว่า สกรู 8อัน อันหนึ่งดูเหมือนโยกเลยเอาออกให้ และสกรูที่เหลือถ้าไม่มีปัญหาหรืออักเสบจะไม่เอาออกค่ะ เพราะตอนจัดฟันก็ต้องใช้เป็นที่ใส่ยางยึดค่ะ ดีใจที่ได้เจอคุณหมอใจดี แต่แอบเสียใจนิดหน่อยเพราะต้องใส่เวเฟอร์ต่อค่ะ อาทิตย์หน้า น่าจะได้กลับไปทำงานแล้วค่ะ ตอนทำงานจำเป็นต้องพูดเยอะๆ คุณหมอเลยบอกว่า นอกจากเวลาไปทำงานต้องใส่เวเฟอร์ และฝึกกัดเวเฟอร์คค่ะ วันนี้ได้เข้ามาโรงพยาบาลก่อนเวลานัด เลยได้พบคุณหมอจัดฟันก่อน และหลังจากนั้นได้พบคุณหมอชินค่ะ ได้ดูรูปเอ็กซเรย์ครบ1เดือน กระดูกยังไม่เชื่อกัน มีแค่น็อตที่ช่วยยึดกระดูกไว้อยู่ จนกว่าถึง 2เดือนยังไม่สามารถกินเนื้อสัตว์ได้ค่ะ กินได้แค่อาหารนิ่มๆ เท่านั้น และอาการบวมที่กังวล คุณหมอได้อธิบายว่า บริเวณข้างๆ จมูกยังมีเลือดข้างอยู่ ถ้าเวลาผ่านไปจะค่อยๆ ดีขึ้นค่ะ




 

[D+30]

ในที่สุดวันนี้เป็นวันครบ 1เดือนค่ะ คุณหมอจัดฟันบอกว่า เวลากัดเวเฟอร์ ฟันกรามสบกันอย่างเดียวไม่ได้ค่ะ คุณหมอจัดฟันกล่าวว่าเมื่อกัดเวเฟอร์ต้องใช้แรงให้ฟันทั้งหมดสบกันค่ะ ไม่รู้ว่าเป็นฉันออกแรงที่คางเลยทำให้รู้สึกปวดคาง และบริเวณโหนกแก้ม แต่ฉันไม่แน่ใจว่าฉันทำได้ดีหรือเปล่า ถึงกระนั้นฉันไม่อยากได้ยินว่าต้องใส่เวเฟอร์ต่ออีก หลังจากผ่านไป 2 สัปดาห์ ดังนั้นฉันจึงพยายามกัดฟันอย่างแน่นๆ วันนี้ได้ไปสัมภาษณ์และต้องถอดหน้ากาก ฉันเลยได้แต่คิดในใจว่า 'ใบหน้าฉันยังไม่เป็นธรรมชาติ' แต่ถึงฉันจะถอดหน้ากาก และได้พูด ไม่มีใครถามถึงใบหน้า อาจเป็นเพราะฉันพูดมาก จึงรู้สึกบวมน้อยกว่าตอนเช้า ตอนกลางคืน อาการบวมที่ดูเหมือนมีอะไรอยู่ในแก้ม ฉันต้องทำงานอย่างระมัดระวังเพื่อไม่ให้หักโหมเกินไป

 

 




[D+44]

ตอนนี้กลับไปทำงาน และสามารถกลับไปใช้ชีวิตปกติได้ และกลับไปใช้ชีวิตประจำวันเหมือนก่อนการผ่าตัด และฉันก็ทำได้ดีโดยไม่มีปัญหาใดๆ เมื่อฉันทำงานฉันจะถอดเวเฟอร์ออก และเมื่อฉันกลับบ้านฉันก็อยู่กับเวเฟอร์ จนถึงตอนนี้ไม่มีอะไรที่ไม่สะดวก นอกจากเวเฟอร์ ทุกวันนี้สำหรับของว่างตอนดึกฉันกินเบอร์เกอร์ไก่และพิซซ่า เดิมทีฉันคิดว่าฉันไม่ควรกินมัน แต่เมื่อฉันสั่งอาหารดึก ฉันก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะกินเนื้อ ถึงกระนั้นฉันก็กังวลฉันจึงมักจะกินมันเหมือนกลืนมันเป็นชิ้นเล็ก ๆ แต่คนที่ฉันทำงานด้วยดูเหมือนจะคิดว่าฉันจะกินมันแบบนี้เพราะการจัดฟัน ถึงฉันจะพูดมีหลายคนที่บอกฉันว่าอย่าพูด เพราะไม่มีใครรู้ว่าได้รับการผ่าตัดแล้ว และถึงฉันจะพูดยังไงก็ไม่ชัดเจน ฉันเริ่มกินอาหารได้ดีและน้ำหนักขึ้นมากดังนั้นฉันจึงมีแก้มค่อนข้างน้อย ตอนนี้ยังไม่ชัดเจนว่าเป็นอาการบวมหรือผิวที่เหลือ แต่ดูเหมือนว่าจะบวมเมื่อฉันนอนและตื่นขึ้นมา แต่ในตอนเย็นอาการบวมจะหายไปและดูเหมือนว่าโครงหน้าฉันชัดขึ้น อันที่จริงมันนานมากแล้วที่ฉันลืมการผ่าตัด และทำได้ดีมากฉันจึงไม่ได้ถ่ายรูปเพื่อบันทึก ในอนาคตฉันควรทำงานหนัก เพื่อจัดการอาการบวม

 




[วันที่64]

ตอนนี้สามารถกินอาหารได้ปกติ ไม่มีอหารที่กินไม่ได้แล้วค่ะ และได้เริ่มกินเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ด้วยค่ะ ตอนนี้ทั้งด้านนอกและด้านที่เป็นปมด้อยได้หายไปแล้วค่ะ หลังผ่าตัดใช้ชีวิตปกติไม่มีปัญหาอะไร จนแทบลืมไปแล้วค่ะว่าผ่าตัดมา ไม่ว่าไปไหนก็มีแต่คนทักว่าสวยขึ้น น่ารักขึ้นค่ะ เวลาไปเช็กอัพที่รพ. พนักนักงานทุกคนก็ต่างทักว่าอาการบวมดูลดลง ดุสวยขึ้นค่ะ

 




[วันที่75]

ตอนนี้ทุกอย่างกลับมา 100%แล้วค่ะ ไม่ว่าจะการเคี้ยวอาหาร หรืออาการชา การอ้าปาก ทุกอย่างกลับมาเหมือนก่อนผ่าตัดแล้วค่ะ นอกจากเวลาเคี้ยวอาหารแข็งนานๆจะรู้สึกเมื่อยคาง นอกจากนั้นไม่มีปัญหาอะไรค่ะ



 

[วันที่100]

พอคางเรียวขึ้นดูเหมือนว่าทำให้โหนกแก้มดูเห็นชัดค่ะ เพราะโควิดทุกคนใส่หน้ากาก ทำให้คิดว่าทุกคนดูหน้าเล็กกันจริงๆค่ะ ช่วงนี้มีแต่คนชมว่าหน้าดูเล็กหน้ากากบังหน้าหมดเลยค่ะ หลังผ่าตัเพอหน้าเรียวขึ้น ดูละมุนขึ้นเยอะจริงๆค่ะ

 




[วันที่120]

พออาการบวมลดลง ร่องแก้มลึกขึ้นเลยค่ะ คิดว่าจะไปยกกระชับผิวค่ะ ตอนนี้คุณหมอใส่ยางรัด อยากให้การจัดฟันเสร็จไวๆจังเลยค่ะ

 

 

 

  • รายการ

바로 상담하기