เหตุผลผ่าตัด & เหตุผลที่เลือกอียู
หลังจากที่โตขึ้นฟันไม่สบกัน และคางยื่นออกมา ทำให้หน้าดูยาวค่ะ
และพอลดน้ำหนัก หน้ายิ่งผอมลงคางยิ่งดูยื่นออกมา และตอนอายุ30 เริ่มทำศัลยกรรม ฉีดไขมัน ผ่าตัดจมูก
เพื่อที่จะทำให้คางดูไม่ยื่นออกมา แต่ความมั่นใจในตัวเองยิ่งลดลง
และหลังจากลาออกจากงาน มีเวลาว่างเยอะ เลยตัดสินใจผ่าตัดค่ะ
รู้จักโรงพยาบาลอียูจากอินสตา จริงแล้วมีโรงพยาบาลอื่นที่ดัง
แต่ฉันชอบรีวิวของโรงพยาบาลอียูมากเลยค่ะ เลยตัดสินใจผ่าตัดที่อียูค่ะ
วันที่ 1
ลืมตาขึ้นมาอีกที ผ่าตัดเสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ
เพราะฤทธิ์ยาสลบทำให้รู้สึกคลื่นไส้ และเวียนหัวมากๆ เลยค่ะ
เพราะยากแก้ปวดทำให้ไม่รู้สึกเจ็บที่คาง นอนหลับสบาย แต่ตื่นมากอีกที
เวลาก็ผ่านไปแต่ 10นาที
30นาที 1ชั่วโมง
เวลาผ่านไปช้ามากเลยค่ะ
วันที่ 2
หลังๆ ตื่นๆ สลับไปมาจนถึงเช้าเลยค่ะ
ตอนเช้าที่ปรึกษาได้เข้ามาเยี่ยมทำให้น้ำตาไหลเลยค่ะ.. เหมือนครอบครัวมาเยี่ยม
ตอนกลางคืนรู้สึกทรมานมาก พอเห็นคนรู้จักทำให้น้ำตาไหลเลยค่ะ ไม่มีแรงเล่นมือถือ
ไม่อยากดูทีวีเลยค่ะ และไม่สงสัยใบหน้าตัวเองเลยค่ะ ไม่เจ็บอย่างที่กังวลสักเท่าไร
แต่เพราะฤทธิ์ยาสลบทำให้รู้สึกทรมาน และช่วงเย็นๆ คุณหมอชินได้เข้ามาเยี่ยมด้วยค่ะ
ตอนคุณหมอเข้ามาเยี่ยมได้เปลี่ยนที่ประคบเย็นให้ ขอบคุณมากเลยค่ะ
วันที่ 3
ในที่สุดถึงวันออกจากโรงพยาบาล ตอนเช้าได้เช็ดแผลและทำเลเซอร์ลดบวม
รู้สึกดีขึ้นเยอะเลยค่ะ และจะได้กลับบ้านแล้วทำให้ร่างกายมีเรี่ยวแรงขึ้นมาเลยค่ะ
และหลังจากนี้อาการบวมขึ้นเยอะที่สุด พอกลับบ้าน จมูก, ปาก, คอ
บวมขึ้นเลยค่ะ
วันที่ 4
พอให้เพื่อนๆ และ คนในครอบครัวดูรูป ทุกคนต่างพูดว่าหน้าสั้นลง
และดูน่ารักขึ้นเยอะเลยค่ะ ตอนนี้กินนิวแคร์แทนข้าว
และกลืนยาเม็ดได้สะดวกขึ้นเยอะเลยค่ะ กินน้ำได้สะดวกขึ้นเยอะเลยค่ะ
วันที่ 7
ตอนนี้หายใจได้สะดวกขึ้นเยอะเลยค่ะ ตอนกลางคืนไม่ตื่น
นอนหลับสบายแล้วค่ะ ตอนนี้ชินกับเวเฟอร์ และอาการบวมในปากลดลง
ทำให้กินข้าวต้มและซุปสะดวกขึ้นเยอะเลยค่ะ นอกจากอาการบวม และรอยช้ำ
อย่างอื่นไม่มีปัญหาอะไรเลยค่ะ พอเวลาผ่านไปดีขึ้นเยอะเลยค่ะ
วันที่ 10
รู้สึกคอแห้ง และแสบจมูกเหมือนเป็นหวัดเลยค่ะ แต่ไม่รู้สึกเจ็บอะไร
อาการบวมที่หน้าลดลงเยอะเลยค่ะ รู้สึกกังวลใต้คางมากเลยค่ะ
กลัวว่าจะเป็นคางสองชั้น
วันที่ 11
คุณพ่อ คุณแม่บอกว่าหน้าเรียวขึ้นเยอะเลยค่ะ ตอนแรกไม่อนุญาตให้ผ่าตัด
และชอบพูดว่าคางก่อนผ่าตัดสวยกว่า วันนี้ชมว่าสวยขึ้น ได้แต่ห่วงเพราะยังกินอะไรไม่ค่อยได้
แต่ฉันยังทนไหวค่ะ เพราะกินเพื่อไว้เยอะ และเหมือนได้ลดน้ำหนักไปในตัวด้วย
วันที่ 17
หลังผ่าตัดแรกๆ ไม่ค่อยมีแรงไม่ได้ออกกำลังกายเลยค่ะ
แต่ช่วงนี้เริ่มเดินออกกำลังกายได้แล้วค่ะ
พอเริ่มกินได้เลยคิดว่าต้องออกกำลังกายไว้บ้าง เหมือนช่วงนี้อาการบวมลดลงช้ามากเลยค่ะ
บริเวณจมูก, แก้ม, ใต้คางยังมีอาการบวมใหญ่เหลืออยู่ค่ะ
วันที่ 18
วันนี้เป็นวันแรกที่ได้เจอเพื่อนๆ ค่ะ
พอเปิดหน้ากากปิดปากออกทุกคนตกใจกันมากเลยค่ะ ถึงแม้เป็นหน้าสดไม่ได้แต่งหน้า
แต่เพื่อนๆ ทุกคนชมว่าหน้าเล็กลง ดูเปลี่ยนไปค่ะ
วันที่ 19
สงสัยกินอาหารที่เค็ม ตื่นมาตอนเช้าหน้าเลยบวมเลยค่ะ เวลาว่างๆ
พยายามเดินออกกำลังกายอยู่ค่ะ ตอนเช้าหน้าจะบวมและตอนเย็นอาการบวมจะลดลงค่ะ
วันที่ 20
จริงๆ แล้วตอนกินข้าวสามารถเอาเวเฟอร์ออกได้
แต่กลัวว่าถอดออกแล้วจะใส่ไม่ได้ เลยไม่ได้เอาออกเลยค่ะ ตอนนี้เริ่มชินแล้ว
ใส่เวเฟอร์กินข้าวได้สะดวกไม่มีปัญหาอะไรเลยค่ะ
วันที่ 22
วันนี้ก็เหมือนเดิมทุกวัน อาการบวมไม่ค่อยลดลงเลยค่ะ
ใช้ชีวิตประจำวันได้ปกติ ไม่มีปัญหาอะไรเลยค่ะ ถึงแม้ยังเคี้ยวอาหารไม่ได้
แต่ก็กินอิ่มตลอดเลยค่ะ น้ำหนักลดลง 3กิโล แต่ไม่ลดลงเพิ่มเลยค่ะ
วันที่ 23
ช่วงนี้ฝึกอ้าปาก 10รอบ 4เททุกวันเลยค่ะ
บางครั้งรู้สึกปวดๆ ที่คางค่ะ ตอนนี้สามารถเอานิ้ว 2นิ้วเข้าปากได้แล้วค่ะ ตอนนี้ยังเอา 3นิ้วเข้าปากไม่ได้เลยค่ะ
วันที่ 26
ไม่กี่วันนี้เหมือนอาการบวมลดลงค่ะ
น่าจะเป็นเพราะขยันเดินเล่นออกกำลังกายค่ะ ช่วงนี้ชอบถ่ายรูปเซลฟี่มากเลยค่ะ
พอหน้าสั้นและเล็กลง ไม่ว่าจะมัดผม หรือใส่หมวกก็เข้ากับหน้าค่ะ ตอนที่หน้ายาวเป็น
ยิ่งอาการบวมเล็กๆ น้อยๆ ลดลง ยิ่งพอใจหน้าตัวเองมากเลยค่ะ
ตอนนี้สนุกกับการดูกระจก เปรียบเทียบรูปก่อนผ่าตัดมากเลยค่ะ
วันที่ 28
ตอนขึ้นลิฟต์มีคุณป้าคนหนึ่งชมว่าทำไมหน้าสวยเหมือนตุ๊กตา จมูกก็สวย
รู้สึกเขินมากๆ เลยค่ะ เมื่อก่อนถ้ามีคนชม ก็ชมแต่ว่าตัวสูง
รู้สึกมีความมั่นใจในตัวเองมากขึ้นเยอะเลยค่ะ รู้สึกดีมากเลยค่ะ ขนาดตอนผ่าตัดจมูก
ไม่มีใครชมว่าจมูกสวยเลยค่ะ พอปากเข้าไปทำให้เห็นจมูกชัดขึ้น และอาการบวมทำให้เหมือนไปฉีดไขมันที่หน้ามา
ขอบคุณคุณหมอที่ผ่าตัดให้มากๆ เลยค่ะ
วันที่ 30
ในที่สุดผ่าตัดครบ 1เดือนแล้วค่ะ วันนี้ได้เจอคุณหมอจัดฟัน เป็นครั้งแรก
คุณหมออธิบายให้อย่างละเอียดเลยค่ะ และคุณหมอดูผิวดีมากเลยค่ะ
เหมือนเคยเห็นคุณหมอในยูทูป ตัวจริงดูหล่อกว่าเยอะเลยค่ะ วันนี้ได้ติดเหล็กฟันล่างอย่างเดียวค่ะ
ส่วนด้านบนกระดูกยังไม่เชื่อมกันดี อีก3อาทิตย์ถึงจะได้ติดเหล็กจัดฟันค่ะ เพราะเป็นคนฟันหน้าห่างกัน
อยากติดเหล็กจัดฟันเร็วๆ แต่ยังไม่ได้ติดเลยค่ะ
วันนี้วันจัดฟันครั้งแรกทุกอย่างโอเค ไม่มีปัญหาอะไรเลยค่ะ และได้พบคุณหมอชิน เช็กอัพครบ1เดือน คุณหมอชมว่าสวยขึ้นด้วยค่ะ
วันที่ 31
คุณหมอบอกว่าตอนกินข้าว เอาเวเฟอร์ออก และใช้ฟันเคี้ยวเบาได้แล้วค่ะ
แต่รู้สึกกลัวตอนไม่มีเวเฟอร์รู้สึกไม่ปลอดภัย พอยิ่งจัดฟันเหมือนไม่ฟันตัวเอง
ไม่ค่อยชินเลยค่ะ ฟันล่างรู้สึกปวดตึงๆ ที่เหงือกก็มีเลือดซึมออกมานิดหน่อยค่ะ
วันที่49
ฟันล่างได้จัดฟันก่อน
3อาทิตย์ ตอนนี้คุณหมอก็ติดเหล็กจัดฟันด้านบนให้แล้วค่ะ
เหล็กจัดฟันชอบทิ่มแก้มเจ็บมากเลยค่ะ ไม่ค่อยชินเท่าไร พอจัดฟัน
ไม่ค่อยมีแรงตอนเคี้ยวอาหาร กลัวว่าจะเจ็บ แต่ก็พอเคี้ยวได้บ้าง
แต่อาหารติดเหล็กจัดฟันเต็มไปหมดแล้วค่ะ หลังผ่าตัดได้กินไก่ทอดเป็นครั้งแรก
อร่อยมากๆเลยค่ะ
วันที่60
ตอนนี้ใช้ชีวิตได้ปกติ
ไม่มีปัญหาอะไรเลยค่ะ เหมือนว่าฟันที่ห่าง เริ่มชิดกันมากขึ้นค่ะ
อยากให้อาการบวมลดลงไวๆจังเลยค่ะ
วันที่64
คุณหมอบอกว่ายังเคี้ยวอาหารเหนียวๆไม่ได้
พยายามที่จะไม่กินค่ะ อยากให้ครบ 3เดือนไวจังเลยค่ะ จะได้เคี้ยวอาหารได้ปกติ
วันที่70
ใช้ชีวิตปกติ
สบายดีไม่มีปัญหาอะไรค่ะ คุณหมอบอกว่าถ้าเริ่มจัดฟัน เวเฟอร์อาจกัดไม่ลงล็อก
แต่ตอนนี้ยังไม่มีปัญหาอะไรค่ะ
วันที่75
ตอนนี้ถอดเวเฟอร์ออก
ไม่ใส่แล้วค่ะ ฟันสบกันปกติแล้วค่ะ
วันที่82
ฟันชิดกันเร็วกว่าที่คิด
ใช้ชีวิตได้ปกติไม่มีปัญหาอะไรเลยค่ะ
วันที่124
วันที่154
วันที่194
วันที่272
ใช้ชีวิตได้ปกติไม่มีปัญหาอะไรค่ะ
ฟันหน้าที่ห่างกัน ฟันติดกันแล้วค่ะ
วันที่309
ตอนนี้ผ่าตัดครบ
10เดือนแล้วค่ะ ได้เข้าไปจัดฟันทุกเดือนค่ะ
วันที่363
3อาทิตย์ก่อนได้ผ่าตัดเอามุดออก
และผ่าตัดปลายคางค่ะ รู้สึกว่าพักฟื้นเร็วกว่าตอนผ่าตัดขากรรไกรเยอะเลยค่ะ อาการบวมก็เหมือนว่าจะลดลงเกือบหมดแล้วค่ะ