เหตุผลที่ตัดสินใจผ่าตัด

ตอนถ่ายเซลฟี่ไม่ค่อยเห็นชัดเท่าไร แต่ตอนที่คนอื่นถ่ายรูปคาง จะเห็นได้ชัดว่าคางล่างยาว ทำให้ต้องใช้มือบังตอนถ่ายรูปค่ะ

และคนรอบข้างเริ่มพูดเกี่ยวกับคางทำให้รู้สึกยิ่งไม่มีความมั่นใจในตัวเองค่ะ 3ปีก่อนเคยคิดจะจัดฟัน แต่คุณหมอจัดฟันบอกว่า ถ้าเป็นเคสคางยื่น จะต้องผ่าตัดขากรรไกร แต่ตอนนั้นไม่ค่อยคิดว่าการผ่าตัดจำเป็น หลังจากน้ำหนักลดลง หน้าผอมลงยิ่งเห็นโครงหน้าชัดขึ้น ยิ่งเห็นได้ชัดว่าหน้าไม่เท่ากัน เลยตัดสินใจผ่าตัดขากรรไกรค่ะ

เหตุผลที่เลือกโรงพยาบาลอียู

ตอนที่ไปคลินิก หากไม่ผ่าตัดจะต้องจัดฟัน 2-3ปี เวลาเลือกโรงพยาบาลจะดู 4ข้อตามด้านล่างค่ะ

1) ที่โรงพยาบาลช่องปากขากรรไกรและโครงหน้า มีคุณหมอจัดฟันประจำด้วยหรือไม่?

- สามารถผ่าตัดและจัดฟันจบในโรงพยาบาลเดียว

2) ประวัติของคุณหมอ

- ดูในเว็บของโรงพยาบาล หน้าที่แนะนำคุณหมอ, มีคุณหมอจัดฟันด้วย ชอบมากเลยค่ะ

3) มีคุณหมอทั้งหมดกี่ท่าน

- คุณหมอที่เลือกผ่าตัด จะดูแลจนกว่าเช็กอัพเสร็จทุกอย่าง

4) มีคนไข้ผ่าตัดจริงเท่าไร

- คุณหมอมีเคสผ่าตัดภายใน 5-6ปี มากกว่า 1000เคส

5) รีวิวของคนไข้

- ในเว็บเพจของโรงพยาบาลมีรีวิว ซึ่งมีประโยชน์มากค่ะ

วันผ่าตัด

เพราะแก๊สยาสลบทำให้รู้สึกมึนมากค่ะ เพราะต้องนั่งตลอด ควรมีเบาะลองก้นจะดีมากเลยค่ะ ถึงแม้รู้สึกแสบคอก็พยายามฝึกกินน้ำ ตอนเช้ามืดรู้สึกคัดจมูก หายใจไม่ออก เรียกพยาบาลทั้งคืนเลยค่ะ

วันที่2

วันนี้ได้มาทำเลเซอร์ลดบวม เวลาเดิมเหมือนเมื่อวาน และได้เช็ดแผลฆ่าเชื้อก่อนออกจากโรงพยาบาลค่ะ พอถึงบ้านเหมือนว่าหน้ายิ่งบวมขึ้น ยิ่งหายใจลำบากมากเลยค่ะ เพราะรู้สึกอึดอัดเลยถอดที่รัดหน้าออกบ่อยค่ะ และพยายามประคบเย็นที่หน้าเยอะ พอช่วยลดอาการบวมได้บ้างคะ อยากให้อาการบวมลดลงไวๆ ค่ะ

วันที่3

วันนี้ได้ไปโรงพยาบาลทำเลเซอร์ลดบวมค่ะ ที่ปรึกษาบอกว่าหน้าไม่ค่อยมีอาการบวมค่ะ อาการหายใจไม่ออกดีขึ้นกว่าเมื่อวานค่ะ วันนี้รู้สึกหิวเลยได้กินซุป อารมณ์ดีขึ้นนิดหนึ่งค่ะ หลังกินอาหารพยายามบ้วนปากตลอดค่ะ อยู่ดีๆ เวเฟอร์ก็หลุดออกมา เลยดันกลับไปใส่เหมือนเดิมค่ะ

วันที่4

ตั้งแต่เช้ามืดท้องรู้สึกปั่นป่วน และท้องเสียค่ะ เพราะกินแต่อาหารเหลว หรือไม่ก็น่าจะเป็นเพราะกินยาแน่เลยค่ะ เลยลองถามที่ปรึกษา แกได้ตอบมากว่าอาจเป็นเพราะยาแก้อักเสบ ห้ามกินนมพร้อมยาค่ะ หลังกลับจากโรงพยาบาล ได้ไปเดินเล่นออกกำลังกาย หลังเดินเล่นอาการบวมที่ใบหน้าลดลง แต่เพราะต้องใส่หน้ากาก หายใจลำบากค่ะ

วันที่12

วันนี้พอดูกระจก รอยช้ำบริเวณคางและคอหายไปหมดแล้วค่ะ บริเวณริมฝีปากยังรู้สึกชาๆ อยู่ค่ะ

วันที่13

อาการบวมค่อยๆ ดีขึ้น ตอนนี้ตอนเช้าตื่นมาหน้าก็ไม่ได้บวมมากแล้วค่ะ พรุ่งนี้ถ้าได้ตัดไหม อาการบวมน่าจะลดลงเร็วขึ้น

วันที่14

วันนี้เป็นวันตัดไหมได้เข้ามาโรงพยาบาล เพราะเคยได้ยินมากว่าตอนตัดไหมเจ็บมากกกกก ตอนตัดไหมแผลด้านบนแอบเจ็บจริงน้ำตาไหลเลยค่ะ บริเวณอื่นไม่เจ็บ เจ็บแค่ด้านบนอย่างเดียวค่ะ หลังจากนี้สามารถแปรงฟันได้ปกติ และเริ่มกินอาหารนิ่มๆ ได้แล้วค่ะ

วันที่19

วันธรรมดาต้องไปทำงาน พูดทั้งวัน เหมือนได้ฝึกอ้าปากไปในตัวค่ะ ตอนนี้สามารถอ้าปาก เอา2นิ้วเข้าได้แล้วค่ะ หูด้านขวายังรู้สึกอื้อๆอยู่ ได้ยินบ้าง ไม่ได้ยินบ้าง อยากให้กลับมาได้ยินเหมือนเดิมไวๆ ค่ะ

วันที่30

ในที่สุดครบ 30วันแล้วค่ะ คนรอบข้างบอกว่าดูไม่ออก แต่ฉันคิดว่าหน้าตัวเองบวมเหมือนปลาปักเป้าเลยค่ะ รู้สึกบริเวณสกรูอักเสบเลยได้บอกที่ปรึกษาค่ะ นัดครั้งหน้าจะดูให้ค่ะ อยากให้ถึงวันนัดเร็วๆจังค่า เพราะรู้สึกปวดๆ

วันที่34

วันนี้ได้เจอเพื่อน หลังที่ไม่ได้เจอกันนาน หลังถอดเวเฟอร์ออกถึงรู้ว่าผ่าตัดค่ะ เพื่อนบอกดูไม่ออกเลยค่ะ คิดว่าหน้าเล็กลงอย่างเดียว ไม่คิดว่าไปผ่าตัดมาค่ะ และช่วงนี้เริ่มกินได้เก่งขึ้นแล้วค่ะ

วันที่46

ตอนนี้อ้าปากได้กว้างขึ้น สามารถใส่นิ้ว 3นิว ครึ่งเข้าได้แล้วค่ะ ไม่รู้เพราะว่าแปรงฟันแรงไป เหล็กที่คล้องยางหายไป หรือแค่ยางค่ะ555 ต้องรีบเข้าไปรพ. เพื่อที่จะติดอันใหม่

วันที่60

ในที่สุดครบ 60วันแล้วค่ะ รู้สึกเจ็บเหงือกบริเวณที่มีสกรู เลยได้เข้ามาที่โรงพยาบาลอีกรอบค่ะ คุณหมอบอกต้องระวังให้แปรงฟันอย่างสะอาดค่ะ วันนี้ได้สแกนฟันบนและล่างค่ะ

วันที่63

หลังไปคลินิกจัดฟัน ผ่านไป3วันแล้วค่ะ ตอนแรกรู้สึกปวดตอนนี้เริ่มดีขึ้นแล้วค่ะ เมื่อไรจะกินเนื้อสัตว์ และไก่ทอดได้สักที อยากกินมากเลยค่ะ

วันที่66

เพราะอยากกินกุ้งมากๆ เลยพยายามกินชิ้นที่นุ่มๆ รู้สึกมีความสุขมากค่ะ คนอื่นเวลาเริ่มจัดฟัน น้ำหนักลดลง ถึงแม้รู้สึกเจ็บฟันก็ยังกินเก่งเหมือนเดิมค่ะ555 อาทิตย์หน้าต้องไปสแกนฟัน ทำที่จัดฟันแบบใสค่ะ

วันที่77

หลังจากพิมพ์ฟัน ได้อินวิสไลน์ จัดฟันแบบใส เริ่มพูดชัดขึ้น สามารถพูดได้เก่งกว่าตอนใส่เวเฟอร์ค่ะ อาการบวมบริเวณคางด้านหน้าลดลงเยอะเลยค่ะ

วันที่81

ช่วงนี้พยายาม กินชาลดอาการบวม ยืดเส้นยืดสายกล้ามเนื้อบริเวณคอและไหล่ค่ะ ช่วยลดอาการบวมเยอะเลยค่ะ เพราะโควิดไปไหนก็ต้องใส่หน้ากาก ไม่ได้แต่งหน้าไปไหนเลยค่ะ

วันที่ 127

เมื่ออาทิตย์ก่อนได้ไปโรงพยาบาล ได้เริ่มจัดฟันแบบใสแล้วค่ะ ตอนเอาออกเอาออกยากมากเลยค่ะ ตอนใส่ไม่เป็นไร แต่ตอนเอาออกต้องใช้เวลามากกว่า 10นาทีกว่าจะเอาออกได้ค่ะ

วันที่134

วันนี้ฉันไม่ได้ค่อยกินอาหารตรงเวลาเลยค่ะ เพราะต้องไปรักษาหัวเข่า นั่นอาจเป็นสาเหตุที่ฉันดูผอมลง ฉันควรกินอาหารให้ตรงเวลา แต่ฉันกลัวเพราะโคโรนา และฉันไม่กินข้างนอกเพราะต้องถอดที่จัดฟันแบบใสออก มันเป็นแค่ฉัน?

วันที่141

เมื่อวานฉันได้ไปโรงพยาบาลค่ะ หมอยังดูแผลบริเวณถอนฟันคุดของฉันด้วย เขาบอกว่าฉันต้องใส่ยางรัดตั้งแต่วันนี้ ฉันคิดว่าฉันรู้วิธีที่ฝึกซ้อมที่โรงพยาบาล แต่ฉันทำไม่ได้เมื่อกลับถึงบ้าน ฉันคิดว่ามันต้องใช้เวลา 30 นาที เพราะยางชอบเด้งอยู่เรื่อย ๆ ... ฉันต้องเข้านอนเร็วเพราะมีงานต้องทำอีกมาก

วันที่150

แผลบริเวณที่ถอนฟันคุดออกเริ่มเล็กลงแล้วค่ะ  เล็กลงกว่าแรกๆ แต่เศาอาหารชอบไปติด ต้องบ้วนปากตลอดเลยค่ะ พยายามเลือกกินเอาค่ะ

วันที่160

วันนี้ได้เปลี่ยนที่จัดฟันแบบใสเป็นอันใหม่แล้วค่ะ จะรู้สึกเจ็บๆแค่ 2-3แรกเท่านั้นค่ะ ช่วงที่จัดฟันแรกๆ ไม่ชินจนแอบนอนไม่หลับก็มีค่ะ แต่ตอนนี้ไม่แล้วค่ะ

วันที่192

ช่วงนี้ทำงานตลอดไม่ได้พักเลยค่ะ ทำงานจนไม่รู้สึกปวดฟันเลยค่ะ จนกว่าชินกับที่จัดฟันแบบใสอันใหม่ คงต้องใช้เวลา2-3วันค่ะ

วันที่206

เมื่ออาทิตย์ก่อนได้ไปโรงพยาบาล คุณหมอบอกว่าบริเวณที่ถอนฟันคุดออกเศษอาหารจะเข้าไปติดได้ง่าย ต้องระวังและรักษาความสะอากเป็นพิเศษค่ะ

วันที่211

ปี2020 เหลือไม่กี่วันแล้วค่ะ ตอนนี้ผ่าตัดครบ7เดือนแล้ว ไม่อยากเชื่อเลยค่ะ เวลาผ่านไปเร็วมากเลยค่ะ