​

วันที่7

พอตื่นนอนมา ต้องเช็กอาการบวมทุกวันเลย วันนี้อาการบวมเริ่มยุบลงแล้ว รู้สึกดีใจมากๆ เลยค่ะ วันนี้ตื่นมาปุปก็กิน นิวแคร์กับน้ำฟักทอง และซุปสาหร่ายกินกับข้าวบด แทบซดกินเลยทีเดียว หลังจากที่ไม่ได้กินข้าวข้าวและพวกคาร์โบรไฮเดรตมานาน อร่อยมากจริงๆ เลยค่ะ อยากกลับมากินข้าวปกติไวๆจังเลย พอหลังกินมื้อเที่ยงเสร็จก็ออกมาเดินเล่นสูดอากาศข้างนอก พอฝนตกก็กลับบ้านมาพักผ่อน

​

วันที่9

อาการบวมใหญ่ๆ ที่หน้ายุบลงเยอะแล้วค่ะ วันนี้ตอนเช้าก็กินซุปสาหร่ายที่เอามาปั่นให้ละเอียด ตอนเย็นก็กินซุปเด่นจังใส่น้ำเยอะๆ ไม่ให้เค็ม หลังจากที่กลับมาจากออกกำลังกายเดินเล่นข้างนอก ก็ได้ติดเทปกันน้ำที่แผล และอาบน้ำอย่างสดชื่น และบางครั้งเวลาหาวจะรู้สึกเจ็บที่คางนิดหน่อย อยากให้ถึง2อาทิตย์ไวๆ จะได้ออกกำลังกายกล้ามเนื้อที่ปาก จะได้กลับมาอ้าปากได้ไวๆจัง วันนี้ความรู้สึกที่โหนกแก้ม และในปากเริ่มกลับมาแล้วค่ะ รู้สึกคันนิดๆ แต่ดีขึ้นแยะเลยค่ะ

วันที่14

รู้สึกว่าอาการบวมยุบลงๆ ทุกๆ วันเลยค่ะ วันนี้ครบ2อาทิตย์แล้วค่ะ เพราะบ้านไม่ได้อยู่ ในโซล เสียดายที่ไม่สามารถมาทำทรีทเม้นลดบวม ที่โรงพยาบาลทุกๆ วันได้ วันนี้ได้ตัดไหมและ เอาเวเฟอร์ออกแล้วค่ะ เริ่มกินสะดวกขึ้นเยอะเลยค่ะ และคุณหมอก็บอกกินอาหารเผ็ดได้แล้ว ถึงแม้ยังเคี้ยวไม่ได้ แต่ก็อยากกินซุปเผ็ดๆ มากเลยค่ะ และตั้งแต่วันนี้เริ่มออกกำลังกายกล้ามเนื้อที่ปากได้แล้ว คุณหมอชมว่าอ้าปากเก่ง สามารถเอา2นิ้วเข้าไปได้ ดีใจมากๆ เลยค่ะ กลับไปก็ต้องขยันออกกำลังกายที่ปากเยอะๆ จะได้อ้าปากกว้างๆ ได้เร็วๆ และกลับมายิ้มธรรมชาติเหมือนเดิม ช่วงนี้เป็นไข้หวัดเลยไม่ได้ออกไปเดินเล่นข้างนอกเลย ถ้าหายดีจะกลับมาขยันออกกำลังกายเยอะ จะได้หายไวๆค่ะ

วันที่17

หน้ายังบวมอยู่เหมือนเดิม แต่ก็พยายามออกกำลังกายทุกๆ วันเลยค่ะ กล้ามเนื้อบริเวณปากยังแข็งๆอยู่ และรู้สึกตึงๆ บริเวณแผลที่ตัดไหมออก เวลาพูดหรือ แสดงสีหน้ายังดูไม่เป็นธรรมชาติเท่าไร แต่คนรอบข้างบอกว่าเริ่มพูดชัดขึ้นแล้ว อาการช้ำใต้คอก็หายไปหมดแล้วค่ะ โหนกแก้มก็เริ่มเล็กลง อยากให้เวลาผ่านไปเร็วจังเลย อดใจรอดูหน้าตอนที่หายดีไม่ไหวแล้วค่ะ ช่วงนี้ชอบออกไปเจอเพื่อนๆ มากกว่าไปเดินเล่นอีกค่ะ อาทิตย์ก็ได้นัดเพื่อนไปกินข้าวต้มด้วยกัน อยากให้กลับมาเคี้ยวอาหารได้ไวๆจัง ตอนออกกำลังกายที่กล้ามเนื้อปาก เวลาอ้าปากค้าง5วินาที รู้สึกเจ็บคาง เลยกลัวว่าคางจะหลุดสงสัยต้องค่อยๆ ทำดีกว่า

วันนที่23

วันนี้เข้ามาเช็กอัฟกับคุณหมอ เป็นรอบที่ 3แล้วค่ะ รู้สึกว่าข้างขวาบวมมากกว่า แต่ไม่มีอาการปวดแสบปวดร้อน มีรสชาติเค็มนิดนึง กลัวว่าติดเชื้อมากๆ เลยค่ะ แต่คุณหมอมาดูให้ บอกว่าไม่ใช้อาการติดเชื้อโล่งอกมากๆ เลยค่ะ และถ้าจะให้ฟันกรามสบกันคุณหมอบอกว่าต้องใส่ยางยึดอีกรอบ กลับบ้านมาก็พยายามเดินเล่นเยอะๆ และกินน้ำฟักทอง ใช้ชีวิตประจำวันปกติไม่เหมือนคนไข้หลังผ่าตัดศัลยกรรมเลยค่ะ

วันที่26

วันนี้ก๋วยเตี๋ยวและไข่ตุ๋นบ้าง กินนมกับซุปราดข้าวบ้าง กินได้เยอะขึ้นแล้ว มีความสุขมากๆ เลยค่ะ อาการบวมยุบลงเยอะแล้วแต่ยังเหลือ อาการบวมที่แก้มอยู่ เพราะผ่าตัดโหนกแก้มด้วย กังวลว่าผิวหน้าจะย้อยลง แต่การออกกำลังกายก็สามารถช่วยได้เยอะ ถ้าสามารถกลับมาออกกำลังกายหนักๆได้ จะขยันออกกำลังกายทุกๆ วันเลยค่ะ เริ่มขี้เกียจไม่ค่อยเดินเล่นออกกำลังกาย เหมือนตอนเพิ่งหลังผ่าตัดใหม่ๆ แต่ก็พยายามเดิมเล่นทุกๆ วัน ไม่ต่ำกว่า1ชั่วโมง และช่วงนี้ชอบปวดหัวตอนเย็นไม่รู้ว่า เป็นเพราะอาการบวม แต่สักพักก็หายไป วันนี้อยากลองเปลี่ยนเป็นบรรยากาศ เลยมาต่อขนตาดู แต่พอตื่นเช้ามาตาบวมมากๆ จนตกใจ ตาสองชั้นหายไปเลย ต้องประคบเย็นที่ตาด้วยซะแล้ว

วันที่27

อาการบวมที่ตายังเหมือนเดิม แต่โครงหน้าดูเรียวสมดุลขึ้นเยอะเลยค่ะ ไม่อยากเชื่อเลยค่ะว่า อาการบวมยังสามารถลดได้อีก อยากให้ลดบวมไวๆ จึงเลยค่ะ พอกินไม่ค่อยได้น้ำหนักลดไปเยอะเลยค่ะ ร่างกายไม่ค่อยมีแรงเลย อยากให้หายไวๆ กลับมาเหมือนก่อนแล้วค่ะ

วันที่30

วันนี้มาเช็กอัฟ ผ่าตัดครบ1เดือน ที่โรงพยาบาลค่ะ พอดีบ้านอยู่ไกล อดไม่ได้มาโรงพยาบาลทำทรีทเม้นลดบวมทุกๆ วันเลยค่ะ ในระหว่างเวลารอพบคุณหมอก็เลยทำทรีทเม้นรอเลยค่ะ ที่หน้ายังเหลืออาการบวมประมาณ30% และได้เอาหมุดที่ปักตรงเหงือกในปาก 4อัน ออกก่อน ที่เหลือคุณหมอบอกว่าขอเก็บไว้ก่อนประมาณ 1เดือน เพราะไม่อยากให้เจ็บตัวอีกรอบ ถ้ามีเหตุต้องใช้หมุดอีก คุณหมออนุญาตให้ออกกำลังกายหนักๆ และ ย้อมสีผมได้แล้วค่ะ พรุ่งนี้ต้องรีบไปร้านทำผมซะแล้ว ตอนนี้กระดูกเริ่มเชื่อมติดกันหมดแล้ว ดีใจมากๆ เลยค่ะ

วันที่54

ช่วงนี้อาการบวมเริ่มยุบตัวช้าลงมากเลยค่ะ ดูเหมือนไม่ค่อยยุบ แต่ก็ลดลงทุกวันเลยค่ะ โหนกแก้มก็เล็กลงเยอะเลยค่ะ ความรู้สึกก็กลับมาเกือบหมดแล้ว ยังเหลือตรงบริเวณข้างๆ จมูกอยู่นิดหน่อย และช่วงนี้เริ่มเคี้ยวอาหารได้ เลยมีอาหารที่สามารถกินได้เยอะขึ้นเลยค่ะ อย่างน้อยตอนนี้ก็ผ่านไป1เดือนแล้ว เวลาผ่านไปเร็วมากเลยค่ะ แต่พอเข้าเดือนที่สองดูเวลาผ่านไปช้ามากๆ เลยค่ะ ช่วงนี้เพื่อนๆ ต่างอิจฉา ปกติก็เป็นคนหน้าเล็กอยู่แล้ว หน้ายิ่งเล็กลงไปอีก เวลายิ้มยังดูไม่เป็นธรรมชาติเท่าไร แต่ดีขึ้นเยอะเลยค่ะ อยากให้กล้ามเนื้อคลายตัวไวๆ จะได้ กลับมายิ้มหวานได้เหมือนเดิมสักที พอหน้าเริ่มดีขึ้นชอบนอนตะแคง ช่วงนี้ก็ต้องขยันออกกำลังกายช่องปาก เพื่อที่จะได้อ้าปากกว้างๆ จน3นิ้ว สามารถเข้าไปได้ และเดือนที่4 จะต้องอ้าปาก จน4นิ้วเข้าไปได้ พอเริ่มยุ่งๆ เลยไม่ได้ไปเดินเล่นออกกำลังกายเลยค่ะ ส่งสัยต้องไปที่ฟิตเนสซะแล้ว ออกกำลังกายลดน้ำหนักไปในตัว ช่วงนี้ใช้ชีวิตปกติดี ไม่มีปัญหาอะไรเลยค่ะ

วันที่77

อาการบวมที่แก้มลดลงเยอะเลยค่ะ ช่วงนี้ยุ่งๆ ไม่ได้ดูแลรักษาอาการบวมสักเท่าไรเลย ยังเหลืออาการบวมที่หน้าอยู่อีกหน่อยแต่ ไม่ได้ออกกำลังกายเลย เพราะไม่มีเวลา รอยแผลในปากก็ยังตึงๆอยู่ แต่รู้สึกชินแล้วค่ะ กลับมานอนตะแคงได้ปกติไม่มีปัญหาอะไรเลยค่ะ ยังกลับมาอ้าปากกว้างๆ เหมือนเดิม ไม่ได้เลย แต่ค่อยๆ ดีขึ้น ความรู้สึกที่หน้าก็กลับมาหมดแล้ว ดีใจมากๆ เลยค่ะ

วันที่83

ตอนนี้ผ่าตัดครบ 3เดือนแล้วค่ะ ช่วงนี้ไม่มีอาหารที่กินไม่ได้เลยค่ะ เคี้ยวได้ปกติแล้ว หลังผ่าตัดกินได้แค่ไม่กี่อย่างเอง ตอนนี้หมูย่างก็สามารถเคี้ยวได้อย่างหนำใจแล้วค่ะ เคี้ยวของแข็งๆ และเหนียวๆ ได้โดยไม่ต้องกังวลอะไรเลยค่ะ เมื่อก่อนกินอะไรก็กังวลไปหมด กลัวกระดูกร้าว น็อตหลุด สารพัด แต่ตอนนี้ไม่สนใจแล้วค่ะ เพราะหายดีแล้วค่ะ ช่วงนี้การยิ้มหรือ แสดงสีหน้าได้ธรรมชาติขึ้นแล้วค่ะ ไม่รู้ว่าเมื่อก่อนโหนกแก้มตัวเองใหญ่มากขนาดไหน แต่พอเล็กลงหน้าดูเล็กลงเลยค่ะ ถ้าปากก็กลับมาเหมือนเดิม จมูกที่เปลี่ยนไปเพราะอาการบวม กลับมาเหมือนเดิมแล้วค่ะ บางคนบริเวณที่มีหมุดที่เชื่อมต่อกระดูก สามารถเป็นสิวได้ สงสัยถ้าถึงเวลาเอาหมุดออกได้ เอาออกเลยดีกว่า พอเข้าเดือนที่6 ต้องเข้าไปดูแลผิวที่คลินิกหน่อยซะแล้ว ขอบคุณ คุณหมอมากๆ เลยนะคะ ที่ผ่าตัดให้สวยขึ้นขนาดนี้