เหตุผลที่ผ่าตัด
เหตุผลที่ทำให้ทำการผ่าตัดที่EU ก็คือ ก่อนหน้านี้ที่ทำมาทำให้หน้าแย่กว่าตอนแรกมากๆ จนไม่สามารถละเลยได้ ก็เลยหาข้อมูลที่นั่นที่นี่หลากหลายมากๆ ได้ขอสรุปว่า ไม่มีที่ไหนดีกว่าที่นี่อีกแล้วล่ะครับ
การศัลยกรรมเป็นฝีมือการผ่าตัดของแพทย์ด้วย แล้วก็ความชำนาญและการดีไซน์ด้วย
ผมต้องการผลลัพธ์ทางด้านความงามด้วย ก็เลยตัดสินใจไปหาคุณหมอคิมจงยุน
เพราะว่าคุณหมอทำงานในโรงพยาบาลศัลยกรรมมาเป็นเวลานานอีกทั้งยังเป็นแพทย์เฉพาะทางด้านกระดูกใบหน้า ผมคิดว่าทั้งปลอดภัยและจะสามารถได้ผลลัพธ์ด้านความงามออกมาอย่างเป็นที่น่าพึงพอใจครับ
ผมทำการผ่าตัดครั้งแรกที่โรงพยาบาลศัลยกรรมในจังหวัดปูซานครับ ตอนแรกก็ไม่ได้หน้าตาแย่อะไร แต่ว่าอยากมีหน้าตาที่ดีขึ้นกว่าเดิม เพราะว่าโหนกแก้มยื่นแล้วก็อยากแก้ไขจมูกที่งองุ้มครับ
แต่ว่าการไปที่นั่นเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดมากๆเลยครับ เพิ่งมารู้ว่าเป็นหมอที่ขาดประสบการณ์ครับ
หลังจากวันนั้น แต่ละวันแต่ละวันผมก็เครียดมากๆเลยครับ โหนกแก้มเวลามองจากข้างหน้าเป็นขั้นบันไดอย่างชัดเจนเลย อาการหนักมากๆ แล้วก็บริเวณกรามก็ตัดไม่เรียบดีเลยครับ เมื่อใช้มือลูบรู้สึกเลยว่ามันไม่เรียบครับ ผมอยากมีความมั่นใจที่ใบหน้ามากขึ้นถึงไปศัลยกรรม แต่พอออกมาแบบนี้แล้วเอาจริงอยู่กับใบหน้าแบบเดิมยังจะดีซะกว่าอีกครับ เดี๋ยวนี้โรงพยาบาลศัลยกรรมโครงหน้าเยอะมากๆ ในการหาโรงพยาบาลเพื่อศัลยกรรมแก้ไขโครงหน้าที่ทำไปคิดหนักมากจริงๆ
เปิดดูข้อมูลในอินเตอร์เนตทุกวันเลยเพื่อหาข้อมูลศัลยกรรม แลกเปลี่ยนข้อมูลกับคนอื่นๆในคอมมูนิตี้เยอะเลยครับเพื่อรวบรวมข้อมูล แต่ว่าเดี๋ยวนี้ในอินเตอร์เน็ตมีนายหน้าเยอะ เลยต้องระวังมากๆ ค่อยๆดูทีละอย่างๆ ก็ได้เจอกับผู้ที่เป็นเหยื่อการศัลยกรรม ได้พูดคุยแล้วก็เจอตัวจริงก็ได้แลกเปลี่ยนข้อมูล ได้เก็บข้อมูลมากหลายอย่างเลยครับ
ก็เลยทำให้ผมตัดสินใจอย่างแรกเลยคือจะต้องทำที่โรงพยาบาลเฉพาะทางผ่าตัดขากรรไกรและกระดูกใบหน้า อย่างที่สองก็คือ ประสบการณ์ สามก็คือ จะต้องสอดคล้องกับการทำเพื่อความงามอย่างที่ผมต้องการ
คิดว่ามีครบทั้งสามสิ่งนี้ก็จะสามารถทำการผ่าตัดครั้งใหม่ได้อย่างประสบความสำเร็จครับ
แล้วก็โรงพยาบาลที่ศัลยกรรมเพื่อรักษาโรคอีกทั้งยังแก้ไขทางด้านความงามได้เดี๋ยวนี้คนเยอะมากๆ แต่ที่ EUไม่ใช่แค่รูปภาพอย่างเดียว ยังมีวิดีโอของผู้เข้ารับการผ่าตัดให้ดูอีกด้วย ยิ่งทำให้เชื่อใจได้มากยิ่งขึ้นไปอีก
จริงๆแล้วรูปที่โรงพยาบาลให้ดูนั้น ส่วนใหญ่เชื่อได้ครึ่งไม่เชื่อครึ่ง เพราะว่าส่วนใหญ่ก็แต่งรูปกันได้ทั้งนั้น แต่ว่าในคลิปวิดีโอสามารถเห็นรอยยิ้มที่สดใสของคนไข้หลังผ่าตัดได้ เห็นได้ชัดว่าทั้งสวยและดูดีขึ้น หลังจากที่ได้เห็นแล้วก็ทำให้ตัดสินใจได้เลยว่าต้องที่นี่ล่ะครับ
จนถึงตอนนี้นี่เป็นเหตุผลที่ผมตัดสินใจเลือกอียูครับ
ก่อนผ่าตัด
ด้านหลังของโหนกแก้มไม่ว่าจะมองยังไงก็อาการหนักมากๆเลยครับ
ต่างกับที่หมอบอกว่าเวลาผ่านไปจะดีขึ้นเองมากๆ
ตรงคางก็ไลน์คางไม่เรียบมีก้อนกลมๆยื่นออกมาครับ
เพราะว่าตัดออกมาได้ไม่เรียบครับ
รูปถ่ายติดบัตรผมครับ ... กระดูกตรงโหนกแก้มที่ยื่นออกมา ไม่ว่าจะถ่ายรูปยังไงก็ยื่นออกมาอย่างชัดเจนครับ
หลังจากการผ่าตัดครั้งแรกใช่เวลาอย่ายากลำบากมากๆเลยครับ การผ่าตัดครั้งที่สองจึงคิดหนักมากๆ
10/25 หลังผ่าตัด วันที่1
ทำการผ่าตัดแก้ไขที่โรงพยาบาลศัลยกรรมช่องปากและใบหน้าขากรรไกรอียูเสร็จแล้วครับ ทำการแก้ไขตำแหน่งโหนกแก้มด้านขวาที่ยื่นออกมาเรียบร้อยแล้ว ทำการผ่าตัดแบบตัดรูปตัวT
เอาจุดที่โผล่ออกมาบริเวณคางข้างขวาออกด้วยครับ
แล้วก็จัดไขมันที่กระพุ้งแก้มด้านซ้ายออกให้เท่ากับข้างขวาด้วยครับ
เวลาที่ใช้ในการผ่าตัดถ้าเทียบกับตอนที่ผ่าตัดที่ปูซานสั้นกว่าจริงๆครับ
แตกต่างกับตอนที่ผ่าครั้งแรกไม่เจ็บเลยครับ รอยบวมด้วย ถ้าเทียบกับที่ทำครั้งแรกบวมน้อยมากๆ รู้สึกขอบคุณมากๆเลยครับ
ปกติเป็นคนที่เมายาสลบมากๆ แต่ว่าพอออกจากห้องผ่าตัดมาแล้วไม่เท่าไหร่ก็รู้สึกดีขึ้น ปกติวางยาสลบแล้วจะทั้งอ้วกแล้วก็มึนมากลำบากมากๆ แต่ว่าคราวนี้สบายมากๆเลยครับ
ตั้งแต่เกิดมาครั้งนี้เป็นครั้งที่วางยาสลบแล้วสบายที่สุดเลย
10/26 หลังผ่าตัดวันที่2
ถ้าบวมน้อยกว่าที่คิดไว้เยอะมากๆ ตอนที่ทำที่ปูซานหน้าบวมเหมือนจะระเบิดเลย
นึกถึงตอนที่หมอที่นั่นบอกเลยว่าเป็นเพราะสภาพร่างกายของผมเอง
ทำไม่เก่งแล้วยังโยนให้คนไข้ ที่ๆทำดีๆจริงๆแล้วเขาไม่ทำให้คนไข้บ่นออกมาตั้งแต่แรกแล้วต่างหากล่ะ
ทั้งโล่งแล้วก็รู้เลยว่าการเลือกโรงพยาบาลต้องดูระดับของหมอด้วยว่าสำคัญแค่ไหน
แล้วก็ขอขอบคุณพนักงานทุกคนตั้งแต่ก่อนผ่าตัดยันหลังผ่าตัดก็ยิ้มแย้มแจ่มใสดีมากๆ แล้วก็คุณหมอคิมจงยุนที่เอาใจใส่อย่างละเอียดมากๆเลยครับ
10/28 หลังผ่าตัดวันที่3
หลังจากตื่นนอนมาตัวก็ไม่ร้อนอะไรเลยครับ
เหมือนว่าหน้าไม่ได้บวมอะไรมากขึ้นเลยจริงๆครับ ที่รพบอกว่าจะบวมประมาณ2-5วันแรกเยอะ แต่ว่าของผมบวมน้อยกว่าที่คิดไว้มากเลยครับ
ตอนเช้าตื่นมาแล้วก็ก็ไปเดินเล่นออกกำลังกาย1ชม.
ออกกำลังกายเสร็จแล้วก็มากินข้าวแล้วก็น้ำฟักทอง
ตั้งแต่เมื่อวานตอนเย็นก็กินน้ำมะเขือเทศไปด้วยครับ
10/29 หลังผ่าตัดวันที่4
วันนี้นอนไปเยอะมากๆครับ เพราะที่บวมที่คอหายบวมไปเยอะแล้วทำให้สบายตัวมากขึ้นหรือเปล่า
ทำให้หน้าบวมขึ้นหน่อยนึง แต่ก็ประคบเย็นไปแล้วก็ออกไปเดินก็เลยยุบหน่อยครับ
เพราะว่าการผ่าตัดครั้งแรกยากลำบากมากๆ พอครั้งนี้เลยผ่านมาได้แล้วทำให้ดีและสบายมากขึ้น ขอบคุณคุณหมอมากๆเลยครับ พนักงานก็เป็นกันเองมากๆ
สั่งน้ำฟักทองมาเยอะมากๆ เมื่อวานเหมือนจะกินไป10ซองเลยอ่ะครับ
ต้องดูแลหน้าดีๆจะได้เห็นโครงหน้าที่สวยขึ้นไวๆ
เดินออกกำลังกายวันนึงประมาณ3ชม.เลยครับ
10/30 หลังผ่าตัดวันที่5
นั่งดูรีวิวของคนอื่นในอินเตอร์เน็ตที่ทำการผ่าตัดกระดูดตัว Tแล้ว เห็นว่าหลายคนบอกว่าแถวๆปากมีรอยช้ำเยอะ
แต่ของผมตอนนี้ไม่มีทั้งรอยช้ำเลือดเลยอะไรเลยครับ ตอนที่ทำศัลยกรรมที่โรงพยาบาลอื่นหลังทำเสร็จเหมือนแค่ทำให้คางแคบลงแค่นั้น แต่ว่าตอนนี้ทั้งความยาวแล้วก็ด้านซ้ายกับขวามีบาลานซ์เท่ากันดีขึ้นมากๆเลยครับ
10/31 หลังผ่าตัดวันที่6
รอยบวมที่บวมๆยุบๆ ตอนนี้ก็เริ่มจะหยุดแล้วครับ
พอเดินไวๆขึ้นหน่อยพอประมาณเหงื่อไหลได้นิดนึง ก็ทำให้ยุบบวมได้ดีขึ้นไปอีกครับ
หน้ายังบวมอยู่แล้วก็ใส่ที่รัดหน้าออกไปไหนมาไหน แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรว่าใครจะมอง
รออยากเห็นหน้าตัวเองตอนที่ดีขึ้น
ยังไม่สามารถออกกำลังกายที่เหงื่อไหลเยอะได้ ตอนแรกๆแลยกินน้ำฟักทองไปเยอะ แล้วก็กินอาหารที่ระบายเกลือออกไปได้ อย่างเช่นกล้วยครับ ช่วยให้ยุบบวมได้เยอะเลย
11/01 หลังผ่าตัดวันที่7
เพิ่งไปตัดไหมโหนกแก้มที่โรงพยาบาลมาครับ ตอนนี้ได้เวลาที่จะเริ่มออกกำลังกายอยากจริงจังเพื่อให้ยุบบวมแล้วครับ
อาทิตย์หน้ามีนัดสำคัญ อยากให้หน้ายุบบวมให้เยอะที่สุดครับ
พอเดินออกกำลังกายกลับมาแล้วเมื่อมองด้วยตาเปล่าก็ยุบบวมไปชัดเจนมากๆ ทำให้อยากเดินอีกเรื่อยๆเลยครับ
11/02 หลังผ่าตัดวันที่8
ตอนนี้หน้ายุบบวมไปเยอะมากๆเลยครับ แต่ใต้คางยังบวมอยู่เหมือนเดิม ถ้าปลายอาทิตย์หน้าคิดว่าน่าจะดีขึ้นครับ
ปลายอาทิตย์หน้ามีนัดสำคัญอยู่ ถ้าดูแลรักษาตัวดีๆก็อาจจะเป็นความลับเลยว่าไปทำศัลยกรรมา
11/03 หลังผ่าตัดวันที่9
ตื่นเช้ามาแล้วก็ประคบอุ่นครับ
ไม่มีอะไรจะทำให้รอยบวมจากการผ่าตัดยุบได้ดีเท่าการประคบอุ่นแล้วจริงๆ
แล้วก็ออกกำลังกายเบาๆให้เหงื่อออกเยอะที่สุด
เดี๋ยวนี้เวลาออกไปกินอะไรข้างนอกก็รู้สึกว่าไม่ค่อยมีคนมองเท่าไหร่แล้วครับ ยุบบวมลงไปเยอะมากจริงๆ
11/04 หลังผ่าตัดวันที่10
พอตื่นมาแล้วก็กินน้ำฟักทองก่อนเลย แล้วก็ประคบอุ่น แล้วก็กินข้าวแล้วก็ไปออกกำลังกายครับ
ยุบบวมอย่างชัดเจนมากๆเลย ไปออกกำลังกายมาตอนเช้าแล้วก็เย็นวันละสองที่
ทำอย่างเต็มที่ที่สุดเท่าที่จะทำได้เลย
ตอนนี้ยุบบวมไปเยอะมากๆ นัดสำคัญอาทิตย์หน้าจะไม่ต้องกังวลเพราะหน้าบวมอีกแล้ว
11/05 หลังผ่าตัดวันที่ 11
ตอนนี้หน้ายุบบวมไปเยอะมากๆแล้วครับ สามารถไปไหนมาไหนได้ตามปกติได้แล้ว
แต่ว่าใต้คางก็ยังคงมีบวมอยู่ครับ เวลาผ่านไปก็น่าจะดีขึ้น
เพราะว่าสภาพร่างกายดีกว่าที่คิดไว้มากๆ อีก3วันก็น่าจะไปเจอเพื่อนได้แล้วล่ะครับ
11/06 หลังผ่าตัดวันที่ 12
วันนี้ไปออกกำลังกายที่ฟิตเนสมา 4ชม.10นาที
ออกกำลังกายอย่างละเอียดรอบคอบเพื่อให้เลือดและออกซิเจนไหลเวียนได้ดี จนกว่าเหงื่อจะไหลจนหมด
สามารถเห็นได้ด้วยตาเปล่าชัดมากๆเลยครับ ว่ายุบบวมไป
สมัครฟิตเนสไว้สองที่ครับ วันหลังจะต้องออกไปออกกำลังกายตั้งแต่ตี5แล้วแหละ
เพื่อให้ยุบบวมได้เยอะที่สุด ทำทุกอย่างเลยครับตอนนี้ ใส่ที่รัดหน้าอย่างสม่ำเสมอด้วย
11/07 หลังผ่าตัดวันที่ 13
เพราะว่าเมื่อวานฝืนออกกำลังกายเยอะไปหรือเปล่าก็ไม่รู้ วันนี้ปั่นจักรยานออกกำลังกายไม่ไหวเลย
แต่ก็เพิ่มการเดินเข้าไป ก็ทำให้เห็นว่าการเดินออกกำลังกายทำให้ยุบบวมได้ดีมากๆเหมือนกันเลย
พรุ่งนี้จะเจอเพื่อนแล้วอยากรู้มากเลยว่าจะเป็นยังไง
11/08 หลังผ่าตัดวันที่ 14
วันนี้เจอเพื่อนแล้วครับ เหมือนเพื่อนจะไม่รู้เลยว่าผมไปทำศัลยกรรมมา
แต่บอกว่าไม่รู้ว่าเพราะตรงไหนแต่ดูหล่อขึ้น
ถ้าจะให้คิดว่าศัลยกรรมมาคงไม่น่าใช่เพราะเวลาน้อยแล้วไม่บวมแล้วเลย
ถ้าไปทำที่อื่นคงไม่ได้ผลลัพธ์ที่ดีขนาดนี้แน่เลยครับ
11/09 หลังผ่าตัดวันที่15
ออกกำลังกายเพื่อให้ยุบบวมไวๆก็ทำให้น้ำหนักลงไปด้วยเยอะเลย
หลังจากนี้อีกอาทิตย์นึงคิดว่าน่าจะกินได้เยอะๆ ตอนนี้ไม่ว่าจะไปไหนก็ไม่มีใครดูออกว่าไปทำศัลยกรรมโครงหน้ามาแล้วครับ
ตอนนี้ยังเหลือบวมอยู่หน่อยแต่ที่บวมเยอะๆก็หายไปหมดแล้วครับ พรุ่งนี้มีนัดสำคัญ แต่ก็คงไม่มีปัญหาแล้วล่ะครับ
11/11 หลังผ่าตัดวันที่ 18
ตอนนี้บริเวณปากยังรู้สึกเกร็งๆอยู่ครับ อาจจะเพราะยังมีบวมอยู่หน่อย
คนอื่นๆก็ดูไม่ออกเลยว่าทำศัลยกรรมมา
เจอลูกค้าของบริษัทแต่ก็ไม่มีปัญหาอะไรเลยครับ
ถ้าศัลยกรรมออกมาได้ไม่ดีก็คงจะมีปัญหาเกิดขึ้นแน่ๆ
11/13 หลังผ่าตัดวันที่ 19
เริ่มกลับมาใช้ชีวิตเข้าสังคมแล้วครับ ทำให้ไม่ได้ดูแลเรื่องอาหารการกินดีๆ
ก็เลยเริ่มลดบวมช้าลง เหมือนยุบบวมลงแค่เท่าที่พยายามเท่านั้น
ตั้งแต่อาทิตย์หน้าจะต้องเริ่มดูแลอย่างดีแล้วล่ะครับ แต่ก็ไปออกกำลังกายทุกครั้งที่มีเวลา
11/15 หลังผ่าตัดวันที่ 21
ช่วงนี้ก็กินอาหารที่นิ่มๆไม่แข็งได้ดีครับ
ช่วงนี้ไม่ค่อยได้ดูแลให้ยุบบวม ก็เลยทำให้ยังบวมอยู่เลยครับ แต่ว่าเวลาถ่ายรูปหน้าก็ออกมาเป็นธรรมชาติมากกว่าเมื่อก่อนขึ้นมากๆเลยครับ
ถ้าทำที่อียูตั้งแต่ครั้งแรกคิดว่าผลลัพธ์น่าจะออกได้ดีกว่านี้ เป็นธรรมชาติดีแน่ๆเลยครับ น่าเสียดายที่มารู้จักเอาทีหลัง แต่ก็ยังดีครับ
หลังผ่าตัดผลลัพธ์ออกมาถูกใจมากๆเลยมาเขียนรีวิวครับ
ถ้ากำลังคิดอยากทำศัลยกรรมโหนกแก้มหรือกระดูกใบหน้า แนะนำให้ทำที่โรงพยาบาลศัลยกรรมขากรรไกรและกระดูกใบหน้าเฉพาะทางนะครับ