เหตุผลที่ตัดสินใจผ่าตัด
ที่จริงฉันเคยได้ปรึกษาที่โรงพยาบาลอียู 1 ~
2 ปีก่อน ตอนแรกเพราะอยากสวยขึ้นคิดอยากที่จะผ่าตัด
แต่กลัวเลยไม่ได้ผ่าตัดค่ะ หลังจากที่ฉันประสบความสำเร็จในการลดน้ำหนัก
ใบหน้าของฉันเรียวขึ้นและยาวขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อฉันถ่ายรูปปากที่ยื่นออกมาและใบหน้าไม่เท่ากันทำให้ฉันเครียดมาก!
ดังนั้นฉันจึงไปโรงพยาบาลต่างๆ เพื่อแก้ไขด้วยวิธีจัดฟัน
แต่จะมีข้อจำกัดในการแก้ไขด้วยการจัดฟัน ฉันจึงตัดสินใจทำการผ่าตัดขากรรไกร
ถึงแท้เคยไปปรึกษาโรงพยาบาลหลายแห่งแล้ว แต่ฉันตัดสินใจผ่าตัดที่อียูค่ะ เนื่องจากอียูเป็นโรงพยาบาลศัลยกรรมช่องปากและใบหน้าโดยเฉพาะ
การผ่าตัดขากรรไกรบนและล่าง เป็นการผ่าตัดใหญ่เมื่อเทียบกับการผ่าตัดอื่น ๆ
เหตุผลที่สองคือฉันชอบผลงานผ่าตัดที่อียู
ฉันหวังว่าผลการผ่าตัดทั้งหมดออกมาเป็นธรรมชาติ
เหตุผลสุดท้ายคือฉันคิดว่าคุณหมอโรงพยาบาลอียูซื่อสัตย์ต่อผู้ป่วยค่ะ
ทำให้รู้สึกเชื่อใจและไว้วางใจที่จะผ่าตัดโรงพยาบาลอียูค่ะ
วันที่1
ฉันรู้สึกตื่นเต้นมากเมื่อขึ้นไปบนเตียงในห้องผ่าตัด
แต่เมื่อฉันลืมตาทุกอย่างก็เสร็จสิ้นและฉันก็นอนบนเตียงในห้องพักฟื้น
ก่อนที่ฉันจะทำการผ่าตัดขากรรไกร ฉันได้อ่านรีวิวเคสผ่าตัดจำนวนมาก
และฉันจำได้ว่าส่วนที่ทรมานที่สุด จะรู้สึกง่วงหลังการผ่าตัดและหายใจลำบาก!
หมอสอดท่อภายในจมูกของฉันเพื่อให้ฉันสามารถหายใจได้ดีขึ้น
วันที่2
แม้แต่พ่อแม่ของฉันก็จำใบหน้าของฉันไม่ได้เพราะหน้าบวม
นอกจากนี้ฉันไม่รู้สึกเจ็บปวดหลังการผ่าตัด แต่น่าจะเป็นเพราะยาแก้ปวดเลยไม่รู้สึกปวดมากเท่าไรค่ะ
พอฉันรู้สึกผ่อนคลายเล็กน้อย เลยทำให้รู้สึกหิวมากเลยค่ะ
คืนนี้ฉันไม่ได้ใช้หลอดฉีดยาเพื่อดื่มอะไร แต่ใช้แค่แก้วกินแทนค่ะ
ฉันสามารถกินอาหารด้วยปากของได้
ฉันกลัวว่าใบหน้าของฉันจะระเบิดเพราะอาการบวมจังเลยค่ะ
วันที่3
วันนี้หน้าบวมกว่าเมื่อวานเยอะเลยค่ะ555+
และคอก็บวมด้วย ทำให้ขนาดใบหน้าและลำคอเท่ากันเลยค่ะ
ก่อนที่ฉันจะออกจากโรงพยาบาล คุณหมอได้เช็กสภาพของฉัน และเวเฟอร์ของฉันหลุดออกมา
คุณหมอเลยใช้ลวดและยางรัดเพื่อไม่ให้เวเฟอร์หลุดออกค่ะ ตอนเช้าสามารถพูดได้
แต่พอใส่ยางทำให้พูดลำบากขึ้นเยอะเลยค่ะ ฉันซาบซึ้งมากๆ เลยค่ะ
เวลาฉันพูดบางสิ่งบางอย่าง
คุณหมอตั้งใจฟังทุกอย่างอย่างระมัดระวังและพยายามดูแลฉันค่ะ
เมื่อฉันกลับถึงบ้านรู้สึกหิวจนฉันซื้ออาหารที่ฉันเห็นจาก EUTUBE ฉันหวังว่าฉันจะเคี้ยวอาหารได้เร็ว ๆ
นี้เพื่อจะได้กินพิซซ่า!
วันที่4
แทบไม่อยากเชื่อเลยค่ะ เมื่อเห็นหน้าตัวเองตอนเช้า
ตอนนี้หน้าตัวเองเหมือนอาจุมม่ามากเลยค่ะ เหมือนดาราที่แต่หน้าคนอ้วนเลยค่ะ
รีวิวคนอื่นไม่มีใครหน้าบวมเท่าฉันเลยค่ะ เวลาดูกระจกรู้สึกตลกมากเลยค่ะ
วันนี้ได้ลองปั่นกล้วยใส่นิวแคร์อร่อยมากเลยค่ะ
วันที่7
ผ่านไป 7วันแล้วค่ะ
ไม่รู้สึกเจ็บแผลเลย แต่เจ็บคอมากกว่าค่ะ
ตอนอยู่ข้างนอกรู้สึกเจ็บคอมากทำให้ไอออกมา เพราะช่วงนี้โควิดระบาด
ทำให้คนมองฉันอย่างเลยค่ะ วันนี้ได้ลองทาตา
แต่งหน้าออกจากบ้านหลังจากที่ไม่ได้แต่หน้ามานานค่ะ วันนี้ได้ไปร้านข้าวต้ม
ได้ซื้อข้าวต้มเนื้อใส่ผัก ก่อนกินได้เอาไปปั่นเห็นเป็นโจ๊ก
กินได้ง่ายและอร่อยมากเลยค่ะ ช่วงนี้คิดแต่อยากจะกินอย่างเดียวเลยค่ะ
อยากกินเนื้อได้ไวๆ ค่ะ ปกติจะเป็นคนกินเนื้อได้วันละ 3 มื้อ พออดกินรู้สึกเศร้ามากเลยค่ะ แต่อาการบวมที่หน้าลดลงเยอะ
แต่ยังมีรอยช้ำที่หน้าอยู่ค่ะ
วันที่8
ในที่สุด 1อาทิตย์ก่อนผ่านไป วันนี้ได้ไปโรงพยาบาลเพื่อที่จะเช็กอัพกับคุณหมอชินค่ะ
คุณหมอบอกวว่าช่วงบริเวณฟันกรามบ้วนปากไม่ค่อยสะอาด ขนาดตั้งใจบ้วนปากเยอะๆ แล้ว
แต่เพราะอาการบวมทำให้การบ้วนปากไม่ง่ายอย่างที่คิดค่ะ
และถ้าจะแปรงฟันกรามต้องอ้าปากเยอะๆ ทำให้แปรงไม่สะอาดแน่เลยค่ะ
กลับบ้านมาได้ตัดขนแปรงฟันให้สั้นลง555+ ทำให้ตอนแปรงฟันไม่ต้องอ้าปากกว้างๆ ค่ะ ถึงแม้ต้องอ้าปาก30นาที ไม่สามารถเลิกล้มความตั้งใจที่จะกินเต้าหู้และข้าวต้มค่ะ
ก่อนผ่าตัดปากปิดไม่ค่อยสนิท หลังผ่าตัดสามารถปิดปากได้สนิทแล้วค่ะ
วันที่12
อาการบวมลดลงกว่าเมื่อ2-3วันก่อนค่ะ แต่ยังเหลือรอยช้ำที่หน้าอยู่ค่ะ ถ้าใส่หน้ากากปิดปากก็จะดูไม่ค่อยออกเท่าไรค่ะ
เหมือนผ่าตัดไม่กี่วันก่อนเอง แต่ผ่านไป12วันแล้วค่ะ เหมือนจะเร็วก็ไม่เร็ว ผ่านไปช้าค่ะ
แต่ถ้าไม่ค่อยสนใจเวลาจะผ่านไปไวค่ะ
เมื่อวานได้ไปซื้อข้าวต้มสำเร็จรูปที่ร้านสะดวกซื้อ ได้เห็นสภาพตัวเองในกระจก
คางของฉันสั้นลงมาก รู้สึกดีใจมากๆ เลยค่ะ ตอนแรกคุณหมอบอกว่าใบหน้าไม่ใหญ่มาก
เปลี่ยนตำแหน่งขากรรไกรได้นิดหน่อย กลัวว่าหน้าไม่เปลี่ยนไปมากทำไงดี
หายกังวลแล้วค่ะ
วันที่18
รอยฟกช้ำบนใบหน้าของฉันเกือบจะหายไปโดยเฉพาะรอบดวงตาของฉัน
แต่อาการบวมบริเวณรอบปากยังเหลืออยู่ค่ะ แต่อย่างไรก็ต้องใส่หน้ากากปิดปากอยู่แล้ว
ดังนั้นฉันจึงไม่ค่อยสนใจอาการบวมค่ะ วันนี้ฉันแค่กินขนมปังและข้าวต้มเท่านั้น
อย่างไรก็ตามฉันมีความสุขที่ได้ทานโจ๊กกับพริกไทยและขนมปังประเภทต่าง ๆ เช่น Castella และ Madeleine
นอกจากนี้ใบหน้าของฉันยังเล็กกว่าที่ฉันไม่ต้องการแต่งหน้าอีกมาก
วันที่25
วันนี้ฉันยุ่งเพราะเป็นช่วงสอบกลางภาค
เมื่อฉันถ่ายรูปอาการบวมลดลงเยอะมาก
แต่ด้านซ้ายและด้านขวาของฉันดูแตกต่างออกไปเล็กน้อย
นอกจากนี้เมื่อฉันยิ้มฉันยังคงรู้สึกว่ากล้ามเนื้อใบหน้ายังขยับไม่ธรรมชาติค่ะ
ฉันเพิ่งผ่านการผ่าตัดขากรรไกร แต่ดวงตาและแก้มของฉันก็บวมด้วยเช่นกัน
ปัจจุบันฉันสามารถกินอาหารมากขึ้น ตั้งแต่เมื่อฉันสวมใส่เวเฟอร์
ฉันกังวลว่าอาหารทั้งหมดจะติดอยู่ที่เวเฟอร์
ฉันเลยไม่สามารถกินอาหารได้อย่างอิสระ! เมื่อเร็ว ๆ นี้ฉันกินเค้กช็อกโกแลต,ช็อกโกเลตและโจ๊กบ่อยๆ
วันที่29
ช่วงนี้อาการบวมของฉันลดลงเร็วกว่ามาก
ฉันคิดว่าใบหน้าของฉันยังดูไม่ค่อยธรรมชาติค่ะ แต่ผู้คนจำไม่ได้
ปกติแล้วฉันไม่ชอบที่จะเซลฟี่ แต่วันช่วงนี้ฉันมักจะเซลฟี่มากขึ้น
และดูกระจกบ่อยมากเลยค่ะ
วันที่39
ในที่สุดคุณหมอก็บอกว่าสามารถเคี้ยวอาหารทีละเล็กละน้อยได้แล้วค่ะ!
ฉันมีความสุขมากที่ได้ไปกินราเมนที่ร้านอาหารญี่ปุ่น!
ว้าวรสชาติของราเมงนั้นยอดเยี่ยมมาก ฉันกำลังจะร้องไห้
นอกจากนี้ฉันถอดสกรูที่เหงือกของฉัน มันไม่ได้เจ็บปวดขนาดนั้น
แต่ฉันสามารถลิ้มรสเลือด เมื่อฉันมองตัวเองจากกระจก
ฉันรู้สึกว่าการแสดงออกทางสีหน้าของฉันค่อนข้างไม่ธรรมชาติ
แต่ผู้คนก็บอกว่าฉันดูดีกว่าแต่ก่อน
ฉันหวังว่าจะฝึกอ้าปากมากขึ้นเพื่อที่ฉันจะได้เป็นธรรมชาติมากกว่านี้!
วันที่47
วันที่57
วันที่63
ช่วงนี้เริ่มลืมไปแล้วค่ะว่าเคยผ่าตัดมา
เมื่ออาทิตย์ก่อนที่ปรึกษาบอกว่าสามารถกินแซนด์วิชได้แล้วค่ะ
ปัญหาคือหลังจากที่คุณหมอบอกว่าฉันสามารถเคี้ยวได้ ดังนั้นฉันกินอาหารมากมาย
ทำให้น้ำหนักขึ้น 3 กิโลกรัมค่ะ
เมื่อฉันเปรียบเทียบภาพเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว อาการบวมที่หน้าลดลงเยอะเลยค่ะ
ปัจจุบันฉันสามารถวางนิ้วสองนิ้วครึ่งนิ้วไว้ในปากของฉันได้ ฉันมีความสุขมาก
เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ก่อนการผ่าตัดฉันแสดงรูปร่างหน้าดาราคนหนึ่ง
และบอกคุณหมอว่าต้องการโครงหน้าแบบคนในรูป
นอกจากนี้ทันใดนั้นแฟนของฉันก็บอกว่ากรามล่างของฉันดูเหมือนหน้าเธอ
ดังนั้นฉันจึงพอใจกับผลการผ่าตัดมากและฉันอยากทานเนื้อสัตว์เร็วๆ ค่ะ!
4เดือน
ตอนนี้ผ่าตัดครบ
4เดือนแล้วค่ะ ตอนแรกคิดว่าครบ3เดือน อาการบวมจะลดลงหมด แต่ตอนนี้ก็ค่อยๆลดลงค่ะ
2-3อาทิตย์แรก อาการบวมใหญ่ๆจะลดลง และจนถึง3เดือน อาการบวมเล็กๆก็จะลดลง
ใบหน้าจะค่อยๆดูธรรมชาติ ตอนนี้แทบจะลืมไปแล้วว่าผ่าตัดขากรรไกร
หลังผ่าตัดแรกๆ กินอะไรไม่ค่อยได้
แต่ตอนนี้กลับมากินได้เหมือนเดิม น้ไหนักขึ้น 6-7กิโลเลยค่ะ
6เดือน
ตอนนี้กินอาหารได้ปกติ
ไม่มีอะไรที่กินไม่ได้แล้วค่ะ เพราะโควิดได้แต่อยู่บ้าน ไม่ได้ออกไปไหนเลยค่ะ
ผ่าตัดขากรรไกร ทำให้กนิอะไรไม่ได้ แอบทรมานนิดหน่อย แต่น้ำหนักลดลง 555
ไม่ต้องไดเอทเลยค่ะ ตอนนี้ใช้ชีวิตประจำวันได้ปกติ ไม่มีปัญหาอะไรเลยค่ะ
ตอนนี้แทบจำหน้าเก่าไม่ได้แล้วค่ะ ถ้าดูรูปก่อนผ่าตัดแอบตกใจค่ะ555
เพราะหน้าเปลี่ยนไปเยอะมากเลยค่ะ
12เดือน
ตอนนี้ครบ1ปีเลยค่ะ
ช่วงนี้ได้แต่อานหนังสืบสอบ ไม่ค่อยได้ดูกระจกเลยค่ะ ถ้าไปค้นรูปในมือถือเก่า
แต่ละรูปจะเห็นได้ชัดเลยค่ะ ว่าปากยื่นออกมา ตอนนั้นไม่ค่อยรู้ตัวเลย เพราะโควินไปไหนก็ ต้องใสหน้ากากอนามัย
แอบเสียดายที่ต้องปิดหน้าค่ะ 555