เหตุผลที่ตัดสินใจผ่าตัดที่โรงพยาบาลอียู
ตั้งแต่เด็กๆเป็นคนที่มีโหนกแก้มสูงและกรามใหญ่เลยทำให้หน้าดูใหญ่เลยไม่ชอบถ่ายรูปมาตลอด
และเคยลดน้ำหนักเลยทำให้หน้าผอมลงยิ่งเห็นโหนกแก้มชัดขึ้น
ทำให้ดูเป็นคนหน้าดุมากๆเลยค่ะ ตั้งแต่อายุ23 เคยไปโรงพยาบาลศัลยกรรมมาแล้วหลายที่
เพราะเป็นผ่าตัดใหญ่เลยทำให้ลังเลเป็นเวลานาน
แต่พอได้มาปรึกษากับคุณหมอที่โรงพยาบาลอียูทำให้เชื่อใจและตัดสินใจผ่าตัดค่ะ
วันที่1
หลังผ่าตัดหน้าไม่ค่อยบวมเลย
พยาบาลบอกว่าหลังออกจากโรงพยาบาลจะค่อยๆบวม แต่ไม่อยากให้บวมไปมากกว่านี้เลยค่ะ
ก่อนผ่าตัดรู้สึกเหมือนเป็นหวัดที่คอ พอหลังวางยาสลบเสร็จยิ่งเจ็บคอมากๆเลยค่ะ
และมีเลือดไหลออกมานิดๆก็ได้แต่กลืนลงคอไม่ก็คายออกค่ะ ตอนนี้สามารถนั่งนอนได้อย่างเดียวนอนไม่ค่อยหลับเลยค่ะ
อยากให้เวลาผ่านไปเร็วจังเลย
วันที่2
พอถึงเวลากินน้ำได้ก็กินน้ำตลอดเวลาเลยค่ะ
จนรู้สึกท้องอืดและฉี่ก็ไม่ค่อยออกเลยค่ะ
ขนาดยังกินอะไรไม่ค่อยได้เหมือนน้ำหนักขึ้นเลยค่ะ
วันนี้หน้าบวมเยอะกว่าเมื่อวานอีกค่ะ
พยาบาลเคยบอกว่าหลังออกจากโรงพยาบาลจะบวมเยอะขึ้น สงสัยเริ่มบวมแล้วค่ะ
ริมฝีปากไม่ค่อยมีความรู้สึกทำให้น้ำลายไหลออกตลอดเวลาเลยค่ะ ตอนกลางคืนได้ออกไปเดินเล่น2ชั่วโมงทำให้อาการลดลงนิดหนึ่ง
พรุ่งนี้ก็ต้องออกกำลังกายแล้วค่ะ
วันที่3
อาการบวมด้านบนค่อยๆลงมาที่แก้มแล้วค่ะ
ช่วงนี้อากาศดีเลยออกไปเดินเล่นออกกำลังกายและไม่ลืมที่จะกินน้ำฟักทองด้วยค่ะ
เหมือนอาการบวมค่อยๆยุบลงแต่พอตกกลางคืนก็กลับมาบวมเหมือนเดิม
วันที่16
วันนี้ได้เดินออกกำลังกายที่สวนในหมู่บ้าน อาการบวมลดลงทุกๆวันเลยค่ะ บริเวณที่คางและกรามยังรู้สึกชาๆอยู่ค่ะ
หลังผ่าตัดสามารถมีอาการผิวห้อยลงมา
อาจจะเป็นเพราะยังบวมอยู่แต่ตอนนี้ไม่มีอาการนั้นเลยค่ะ
วันที่21
อาหารที่นิ่มๆ อาหารที่ใช้นิ้วกดแล้วทำให้ขยี้ได้อย่างง่ายดายสามารถกินได้ทำให้มีความสุขมากๆเลยค่ะ ยังมีอาการบวมนิดๆที่ปากลงเหลืออยู่
แต่ถ้าดูภายนอกอย่างเดียวจะดูไม่ค่อยออกเลยค่ะ อาการปวดๆและรอยช้ำที่ใต้ตา กับหน้าผากหายไปหมดแล้วค่ะ
วันที่25
อาการแต่ละข้างลดบวมไม่เท่ากันเลยทำให้หน้ายังดูไม่เท่ากันสักเท่าไร
แต่อาการบวมที่คางค่อยๆดีขึ้นทุกวันเลยค่ะ และถ้าเดินเล่นตอนเช้าจะไม่ค่อยบวมเลยค่ะ
สงสัยเย็นวันนี้ก็ต้องออกไปเดินเล่นออกกำลังกายสักหน่อยแล้วค่ะ
วันที่39
วันนี้ตื่นนอนมาเห็นว่าตัวเองแอบนอนหันตะแคง
นอนทับโหนกแก้มนิดหน่อย แต่ก็ไม่รู้สึกปวดหรือมีอาการใดๆเลยค่ะ
และก็ได้ออกกำลังกายเดินเล่นทุกๆวัน วันละ30นาทีเลยค่ะ
วันที่47
เพื่อนๆที่ทำงานต่างก็บอกว่าอาการบวมที่หน้าลดลงเยอะเลยค่ะ
อาการบวมในปากค่อยๆลดลง แต่ยังรู้สึกหนักๆที่หน้าอยู่เลยค่ะ
วันที่64
ใครๆก็บอกว่าหน้าหายบวมขึ้นเยอะเลยค่ะ
ขนาดแค่ผ่านไปสองเดือนเอง ถ้าหากว่าอาการบวมที่หน้าลดลงหมดโครงหน้าจะเป็นอย่างไรตื่นเต้นมากๆเลยค่ะ
ตอนนี้การอ้าปากเริ่มดีขึ้นแล้วค่ะ สามารถอ้าปากกินแซนด์วิชและแฮมเบอร์เกอร์ได้แล้วค่ะ
และถ้าไม่ออกไปเดินเล่นออกกำลังกาย หรือกินอาหารเค็มๆมากเกินไป
รู้สึกว่าอาการบวมลดลงช้ามากเลยค่ะ
ต้องงดการกินอาหารเค็มๆซะแล้วค่ะ
วันที่86
ตอนนี้หลังผ่าตัดครบ3เดือนแล้วค่ะ
เหลือแค่อาการบวมเล็กน้อยบริเวณที่คางอย่างเดียวแล้วค่ะ ตั้งแต่ที่โหนกแก้มและวีไลน์สามารถเห็นโครงหน้าได้ชัดแล้วดีใจมากๆเลยค่ะ
เดือนที่4
ผ่าตัดครบ4เดือนแล้วค่ะ เวลาผ่านไปเร็วมากเลยค่ะ
การผ่าตัดโครงหน้าต้องสู้กับเวลาจริงๆเลยค่ะ เวลาผ่านไปมากเท่าไรอาการบวมก็ยิ่งลดลงมากเท่านั้นเลยค่ะ
ถ้าจะให้อาการบวมในปากลดลงหมดเลยจริงๆคงต้องรอเป็นปีแน่เลยค่ะ ช่วงนี้เวลาถ่ายรูปทีไรทำให้คิดได้ว่าถูกแล้วที่ตัดสินใจผ่าตัดค่ะ
เดือนที่6
ตอนนี้เวลาผ่านไปเยอะมากเลยค่ะ พออาการบวมลดลงรู้สึกหน้าเล็กลงเยอะเลยค่ะ
และตอนนี้กำลังค่อยๆลดน้ำหนักทีละนิดๆอยู่ค่ะ กลัวว่าถ้าลดน้ำหนักลงเยอะจะทำให้ผิวหย่อนยานลงมาได้
คงได้แต่รอเวลาค่ะ พอหน้าเล็กลงสนุกกับการถ่ายรูปมากๆเลยค่ะ
เดือนที่7
เพราะเป็นฤดูหนาวรู้สึกตัวเองขึ้นหน้าเลยดูกลมๆ
แต่ก็มีคนทักว่าผอมลงและดูสวยขึ้นมีความสุขมากๆเลยค่ะ
เดือนที่10
หลังผ่าตัดพอใจมากๆเลยค่ะ มีความสุขมากค่ะ
เดือนที่12
ตอนนี้ผ่าตัดครบ1ปีแล้วค่ะ
โครงหน้าหลังผ่าตัด1เดือนกับตอนนี้แตกต่างกันมากเลยค่ะ
การผ่าตัดโครงหน้าต้องสู้กับเวลาจริงๆเลยค่ะ
ไม่อยากเชื่อเลยค่ะว่าเวลาผ่านไป1ปีแล้วค่ะ สำหรับคนที่คิดอยากจะผ่าตัดโครงหน้าขอแนะนำโรงพยาบาลอียูนะคะ
ขอบคุณคุณหมอชินและพนักงานอียูทุกๆคนเลยนะคะ